ซ้อมตายเพื่อเกิดใหม่

ทุกๆ คืนก่อนที่คุณนอน จงซ้อมให้ตัวเองคุ้นชินกับความตาย
คุณต้องเหยียดตัวตรง ปล่อยกายใจให้เบา คุณไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องรกสมองไปคิดอีกแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จงทิ้งมันไว้ก่อน ขอให้คุณตระหนักรู้ถึงความเคลื่อนไหวในร่างกาย ตั้งแต่ปลายเท้าจรดศีรษะ
  • จากนั้นจึงเคลื่อนจากศีรษะไปจนสุดปลายเท้า จงรับรู้ถึงการมีชีวิต ลมหายใจ ทำอย่างนี้อย่างต่อเนื่องไประยะหนึ่งจนถึงจุดที่คุณสัมผัสได้ว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของห้องนอน เตียงนอน หมอน และสิ่งต่างๆรอบตัว หลังจากนั้นจงสร้างความรู้สึกขอบคุณของคุณให้แผ่ขยายออกมาจากใจ ขอบคุณทุกความเจ็บปวด ขอบคุณทุกความความดีใจ เสียใจ ขอบคุณทุกคนที่คุณรู้จัก ขอบคุณคนที่คุณรัก และรักคุณ ขอบคุณโลกใบนี้ ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต ขอบคุณร่างกายของคุณ แขน ขา และดวงตาของคุณ จงแผ่ขยายความรัก และความเมตตาของคุณให้กว้างขวาง อย่าได้รู้สึกถึงการแบ่งแยกใดๆ แต่จงรู้สึกถึงมิตรภาพและความเป็นหนึ่งเดียว
อย่าได้ติดค้าง อย่าได้ลังเลสงสัย จงบอกตัวเองว่า ชีวิตของคุณนั่นสวยงาม และมันคือสิ่งที่ดีที่สุด หลังจากที่คุณดื่มด่ำกับความปิติที่เกิดขึ้นอย่างเพียงพอ เมื่อคุณสามารถเติมเต็มจิตวิญาณของคุณให้เข้าสู่ภาวะสมบูรณ์พร้อม จงทิ้งทุกสิ่งเหมือนว่าคุณกำลังจะตาย ทิ้งผู้คนที่คุณรัก ทิ้งสิ่งของที่คุณรัก ทิ้งเรื่องราวที่เคยผ่าน ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องไปสู่สถานที่อันไกลโพ้น จงมีสมาธิอันแผ่วเบาอยู่กับตัวเอง รู้สึก สัมผัส แล้วทำความรู้สึกตัวของคุณให้ละเอียดยิ่งขึ้น เมื่อความรู้สึกตัวของคุณกลายเป็นความรู้สึกที่ละเอียดอ่อน ขอให้คุณสังเกตตัวเองตามความเป็นจริง จงเห็นตัวเองอย่างที่มันเป็น เห็นทุกการเปลี่ยนแปลงแม้แต่การเปลี่ยนแปลงที่เล็กน้อยที่สุดที่เกิดขึ้นตรงหน้า อย่าได้ให้ความหมาย อย่าได้พยายามขบคิดสิ่งใดๆ เพียงการที่คุณพาตนเองไปเห็นความเปลี่ยนแปลงนั้นก็เพียงพอแล้ว คุณไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่านั้น ไม่มีอะไรที่คุณต้องทำนอกเหนือจากการสังเกต
เมื่อคุณเห็นความเปลี่ยนแปลงไปถึงระดับหนึ่ง ขอให้คุณกลับมาสู่ความเบาสบาย รับรู้ในความว่างที่เกิดขึ้นอย่างเบาสบาย ดับความคิดทั้งหมด คุณไม่จำเป็นต้องคิดอะไรอีกแล้ว มันไม่จำเป็นเลย ขอให้คุณไหลไปตามความว่างเปล่านั้น อย่าปฏิเสธความว่างเพราะมันถึงเวลาแล้วที่คุณต้องไหลไปสู่ความว่าง ในเวลานี้คุณจำเป็นต้องค่อยๆ ลดพลังงานที่ไหลเวียนในร่างกายให้เหลือน้อยที่สุด ดุจกองไฟที่กำลังจะมอดดับ กองไฟนั้นไม่สำคัญอีกแล้วในยามนี้ มันค่อยๆ ดับ ค่อยๆ ดับ เกิดเป็นควันบางเบา คุณต้องค่อยๆ ลดพลังงานลงไปเรื่อยๆ ประหนึ่งว่าคุณกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาสุดท้ายแห่งความตาย จงรู้สึกให้ได้ว่าคุณจะตาย รับรู้ถึงลมหายใจ ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจของคุณให้ละเอียด และเบาลงไปเรื่อยๆ จงทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ รับรู้ถึงพลังงานอันน้อยนิด ปล่อยให้มันสลายหายไปกับความว่าง ปล่อยให้มันหายไป หายไป และหายไป จนถึงช่วงเวลาที่คุณได้ตายไปชั่วขณะ คุณได้ตายไปแล้ว ไม่มีคุณอีกแล้วในจักรวาลแห่งนี้

ธรรมทาน ชนะการให้ทานทั้งปวง

การพิมพ์หนังสือธรรมะแจก เป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ อานิสงส์สูง บารมีมาก เพราะเป็นการให้ปัญญา ให้แสงสว่าง ให้ความพ้นทุกข์ ให้ความสงบ ความสุขอันแท้จริงแก่คนทั้งหลาย ให้สุขกาย สุขใจกันถ้วนทั่ว ด้วยพลังแห่งการสวดมนต์ ภาวนา วิปัสนา สมาธิ คือบุญใหญ่ อานิสงส์สูง ง่ายงามสำหรับทุกคน

การสร้างหนังสือสวดมนต์แจกเป็นมหาทาน
จึงเป็นการส่งบุญ มอบแสงสว่าง มหาสติ มหาปัญญา ให้แก่คนทั้งหลาย
ดั่งพุทธพจน์กล่าวไว้ว่า…
“ผู้ใดให้ธรรมทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้นิพพานแก่คนทั้งหลาย”