ทุกข์ใจ เพราะใครทำ? ปัญหา เกิดที่ใคร ?

“ มีเรื่องเล่าว่า…
มีภรรยาคนหนึ่งตื่นเช้าก็ลุกขึ้นมาบริหารกายในห้องนอน
มองผ่านหน้าต่าง ก็เห็นราวตากผ้าของเพื่อนบ้าน จึงพูดขึ้นมาให้สามีที่กำลังนอนอยู่ว่า
“คุณดูสิ ! บ้านนี้ซักเสื้อผ้าไม่สะอาดเลย ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน
มีรอยด่าง บ้านก็รวย แต่ทำไมไม่ซักให้สะอาด” สามีฟังก็ไม่ว่าอะไร
  • รุ่งขึ้นเธอก็บ่นเหมือนเดิม วันที่สามตื่นขึ้นมาเธอก็ทำเหมือนเดิม มองไปนอกหน้าต่าง แต่คราวนี้เธอแปลกใจว่า ทำไมเสื้อผ้าของบ้านนั้นสะอาดแล้ว จึงถามสามีว่า…
    “คุณไปบอกบ้านนั้นหรือ? ว่าซักผ้าไม่สะอาด”
  • …. สามีตอบว่า…
    …. “เปล่าหรอก ผมไม่ได้บอกเขา ผมเพียงแต่เช็ดกระจกหน้าต่างบ้านของเราให้สะอาดเท่านั้น”
  • ภรรยานั้นเห็นว่าเสื้อผ้าของเพื่อนบ้านไม่สะอาด แต่ความจริงแล้วไม่ใช่หรอก มันเป็นเพราะกระจกบ้านของตัวเองต่างหากที่ไม่สะอาด
เรื่องนี้สอนเราว่า…
เวลาเรามองว่าใครมีปัญหานั้น บางครั้ง..ปัญหาอาจอยู่ที่ตัวเราเอง แต่เรามักมองไม่ค่อยเห็น พอใจเราเป็นลบ เราก็มองคนอื่นเป็นลบ…
…. พระพุทธเจ้าตรัสว่า…“มือที่ไม่มีแผล จับต้องยาพิษก็ไม่อันตราย” แต่ถ้ามีแผลเมื่อไหร่ แล้วไปถูกต้องยาพิษเข้า อันตรายก็เกิดกับตัว
ใจคนเราก็เช่นกัน ถ้าใจเรามีแผล อะไรต่ออะไร แม้เล็กน้อย มากระทบก็เจ็บ เวลามือมีแผล แม้แต่ยอดหญ้ามาถูกต้องยังรู้สึกเจ็บเลย”
คติธรรม พระไพศาล วิสาโล

ธรรมทาน ชนะการให้ทานทั้งปวง

การพิมพ์หนังสือธรรมะแจก เป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ อานิสงส์สูง บารมีมาก เพราะเป็นการให้ปัญญา ให้แสงสว่าง ให้ความพ้นทุกข์ ให้ความสงบ ความสุขอันแท้จริงแก่คนทั้งหลาย ให้สุขกาย สุขใจกันถ้วนทั่ว ด้วยพลังแห่งการสวดมนต์ ภาวนา วิปัสนา สมาธิ คือบุญใหญ่ อานิสงส์สูง ง่ายงามสำหรับทุกคน

การสร้างหนังสือสวดมนต์แจกเป็นมหาทาน
จึงเป็นการส่งบุญ มอบแสงสว่าง มหาสติ มหาปัญญา ให้แก่คนทั้งหลาย
ดั่งพุทธพจน์กล่าวไว้ว่า…
“ผู้ใดให้ธรรมทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้นิพพานแก่คนทั้งหลาย”