การทำบุญที่ถูกต้องและให้อานิสงส์มากที่สุด

การทำบุญนั้น พวกเราส่วนใหญ่มักจะคิดถึงแต่การบริจาคทาน…. แต่ทว่าในคัมภีร์นั้น… การบริจาคทานเป็นหนึ่งในวิธีทำบุญเทานั้น!!!!!!!! และการทำบุญนั้นสามารถทำได้มากมายหลายวิธีด้วยกัน (โอ้โห…ไงมันมากยังงี้ นี่เป็นความรู้สึกตอนที่อ่านครั้งแรกครับ) ซึ่งเรียกสั้น ๆ ว่า บุญกิริยาวัตถุ นั่นเอง…. แต่ยังไม่หมด บุญกิริยาวัตถุนั้น แบ่งออกเป็นแบบเก่ากับแบบใหม่อีกด้วย ซึ่งแบบเก่าเรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ 3 ส่วนแบบใหม่เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ 10
บุญกิริยาวัตถุ 3 คือการกระทำที่ทำให้เกิดบุญขึ้น มี 3 อย่าง คือ ทาน ศีล ภาวนา บุญกิริยาวัตถุ 3 นั้น เป็นแบบเก่าครับ ซึ่งเป็นเนื้อหาในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ หรือ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕ ซึ่งพระพุทธเจ้าของเราเป็นผู้ที่อธิบายเรื่องนี้ด้วยตัวเองครับ

ส่วนบุญกิริยาวัตถุ 10 คือการกระทำที่ทำให้เกิดบุญ 10 ประการ เป็นแบบใหม่ที่นำเอา ทาน ศีล ภาวนา มาแตกประเด็นและเรียบเรียงให้ปฏิบัติง่ายขึ้น ซึ่งพระอัครสาวกได้ปรับปรุงในภายหลังนั้นเอง….. ในบทความนี้ผมจะอธิบาย โดยใช้บุญกิริยาวัตถุ 3 เป็นพื้นฐานครับ เพราะผมชอบของเก่าที่สั้นและเข้าใจง่ายกว่าในความรู้สึกผมครับ

บุญกิริยาวัตถุ แปลความหมายให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ การกระทำที่ทำให้เกิดบุญนั้นเอง มีอยู่ 3 ประการ คือ ทานมัย หรือ การบริจาคทาน สีลมัย หรือ การรักษาศีล ภาวนามัย หรือ การเจริญภาวนา

1. ทานมัย หรือ การให้ทาน ข้อนี้ทำง่ายมาก…. เพียงแค่เราให้สิ่งของกับใครก็ได้ เราก็ได้บุญแล้ว…. ง่ายไหม? จริง ๆ แล้ว ไม่ต้องให้คนก็ได้ ให้หมู หมา กา ไก่ ก็ได้บุญเหมือนกัน ถึงตรงนี้บางคนจะคิดว่าจริงเหรอ ทำบุญกับหมู หมา กา ไก่ ก็ได้บุญ จริง ๆ น่ะ? คำตอบคือ จริง… เพียงแต่การทำบุญกับสัตวเดรัจฉาน จะไม่ได้อานิสงส์เท่ากับการทำบุญกับคน ก็เท่านั้นเอง… โดยในคัมภีร์นั้นได้สรุปอานิสงส์ในการทำบุญให้ผู้รับแต่ล่ะอย่าง ดังนี้ครับ

1. ทำบุญกับสัตว์เดรัจฉาน 100 ครั้ง ไม่เท่าทำบุญกับมนุษย์ไม่มีศีล เพียงครั้งเดียว
2. ทำบุญกับคนไม่มีศีล 100 ครั้ง ไม่เท่ากับทำบุญกับมนุษย์ผู้มีศีล 5 เพียงครั้งเดียว

3. ทำบุญกับคนมีศีล 5 มากถึง 100 ครั้ง ได้บุญน้อยกว่าทำบุญกับผู้มีศีล 8 เพียงครั้งเดียว

4. ทำบุญกับคนมีศีลอุโบสถ 100 ได้บุญน้อยกว่าผู้มีศีล 10 เพียงครั้งเดียว

5. ทำบุญกับผู้มีศีล 10 หรือเณร 100 ครั้ง ได้บุญน้อยกว่าทำบุญกับพระสงฆ์เพียงครั้งเดียว

6. ทำบุญกับสมมติสงฆ์ หรือ พระ 100 ครั้ง ได้บุญน้อยกว่าทำกับพระโสดาบันเพียงครั้งเดียว

7. ทำบุญกับพระโสดาบัน 100 ครั้ง ได้บุญน้อยกว่าทำกับพระสกิทาคามีเพียงครั้งเดียว

8. ทำบุญกับพระสกิทาคามี 100 ครั้ง ได้บุญน้อยกว่าทำกับพระอนาคามีเพียงครั้งเดียว

9. ทำบุญกับพระอนาคามี 100 ครั้ง ได้บุญน้อยกว่าทำกับพระอรหันต์เพียงครั้งเดียว

10. ทำบุญกับพระอรหันต์ 100 ครั้ง ได้บุญน้อยกว่าทำกับพระปัจเจกพุทธเจ้าเพียงครั้งเดียว

11. ทำบุญกับพระปัจเจกพระพุทธเจ้า 100 ครั้ง ได้บุญน้อยกว่าทำกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพียงครั้งเดียว

12. ทำบุญกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า 100 ครั้ง ได้บุญน้อยกว่าทำกับการถวายสังฆทานเพียงครั้งเดียว

13. ทำบุญสังฆทานกับคณะสงฆ์ที่มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน 100 ครั้ง ได้บุญน้อยกว่าการถวายวิหารเพียงครั้งเดียว

14. ทำบุญสร้างวิหารทาน 100 ครั้ง ได้บุญน้อยกว่าการให้ธรรมทานเพียงครั้งเดียว

เห็นความต่างหรือยังครับ…. ว่าทำบุญกับผู้รับต่างประเภทกัน จะให้อานิสงส์ต่างกัน…ค่อนข้างมากทีเดียว…. และทานที่ให้แล้วเกิดอานิสงส์มากและทำได้ง่ายที่สุดก็คือ การให้ธรรมทาน หรือ การให้ธรรมเป็นทาน นั่นเอง… และบทความนี้ก็สามารถจัดเป็น 1 ในการให้ธรรมเป็นทานด้วย เช่นกัน แต่ยังไม่หมดครับ ทานแบบสุดท้ายที่ให้อานิสงส์มากที่สุดแต่ทำได้ยากที่สุด คือ…..

15. การให้ธรรมทาน 100 ครั้ง ได้บุญน้อยกว่าการให้อภัยทานเพียงครั้งเดียว เพราะการให้อภัยทาน จัดเป็นหนึ่งในการเจริญภาวนา ซึ่งมีอานิสงส์สูงมาก นั่นเอง เรื่องนี้ผมจะอธิบายในหัวข้อภาวนามัยนะครับ….

มาถึงตรงนี้ ผมขออธิบายเรื่องสังฆทานสักนิดนะครับ… สังฆทานก็คือการทำทานแก่คณะสงฆ์ โดยไม่เจาะจงว่าจะทำทานให้ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง…ย้ำอีกนิด… ไม่เจาะจง… ถ้าเจาะจงเมื่อไหร่ก็ไม่ใช่สังฆทาน….. และจะต้องมีพระสงฆ์ตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไปมารับ หรือ…พระรูปเดียวก็ได้ที่ได้รับแต่งตั้งจากคณะสงฆ์ในวัดนั้น ให้มารับสังฆทาน ดังนั้น การถวายสังฆทาน…ไม่จำเป็นต้องคิดมากเรื่องพระรูปนี้ดีไม่ดี…. เพราะถ้าเราคิดแบบนี้จิตใจจะตก ส่งผลให้อานิสงส์ที่ได้น้อยลง….

การถวายสังฆทานควรจะถวายโดยไม่พะวงเรื่องพระดีไม่ดี แต่ควรพะวงกว่า เราต้องถวายให้พระสงฆ์จริง ๆ ไม่ใช่ไปถวายพระที่เดินผ่านมา โดยเราไม่รู้ว่าเป็นพระที่บวชจริงหรือไม่ ถ้าเป็นพระที่บวชจริงก็เป็นสังฆทาน แต่ถ้าไม่ใช่เกิดเป็นพระปลอมขึ้นมา ก็จะเป็นเพียงแค่ การทำบุญกับคนที่ไม่มีศีลเท่านั้น…. ดังนั้นการถวายสังฆทาน ถวายที่วัดจะดีที่สุด…. และการใส่บาตรก็อาจจะเป็นสังฆทานได้ ถ้ามีพระ 4 รูปขึ้นไปมาให้ใส่บาตร และเรามีเจตนาถวายให้พระเพื่อให้พระพุทธศาสนายังคงอยู่ต่อไป

ทีนี้ เรื่องอานิสงส์นี่ ยังไม่หมดนะครับ ที่ผมกล่าวเบื้องต้น เป็นเพียงแค่หัวข้อที่ว่า การให้ทานต่อบุคคลต่างประเภทจะให้อานิสงส์ต่างกัน แต่ตามพุทธบัญญัติแล้ว อานิสงส์ของการให้ทาน มีทั้งหมด 3 ปัจจัยด้วยกัน….

เอาล่ะ เพื่อให้ผู้อ่านทุกคน ทำบุญแล้วได้อานิสงส์เยอะ ๆ ผมจะเข้าเรื่องต่อว่า ทำอย่างไรถึงให้ทานแล้วจะได้อานิสงส์มากๆๆๆๆๆ

อานิสงส์ของการให้ทานนั้น จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยด้วยกัน คือ

1. เจตนาที่จะให้ ต้องให้ด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่รู้สึกเสียดายของที่จะให้ และที่สำคัญต้องยินดีที่จะให้ ตั้งแต่ ก่อนให้ ระหว่างให้ และหลังให้ ทำแบบนี้จะได้บุญเยอะ ทริคสำคัญคือต้องระวังจิตใจตัวเองครับ พยายามคิดในแง่ดีเข้าไว้นะครับ…

2. วัตถุที่จะให้ต้องบริสุทธิ์ คือ ต้องไม่เป็นของที่ขโมยหรือเบียดเบียนเขามา เช่น ขโมยไอโฟนมาถวายพระ ทำแบบนี้นอกจากไม่ได้บุญแล้ว ยังได้บาป เพราะทำให้พระติดคุกเพราะรับของโจรซะงั้น หรือ เอาเงินที่ยักยอกเขามา มาถวายสังฆทานให้พระ แบบนี้ได้บุญแต่….ได้น้อยครับ… และการทำบุญด้วยวัตถุทานแบบนี้ มันไม่สามารถลบล้างบาปที่ได้ทำกับเค้านะครับ การล้างบาปที่ดีที่สุดคือ การยอมรับกรรมที่ตามมาทัน และ…หรือ ให้เค้าอโหสิกรรมให้ ทำแบบนี้บาปจึงสิ้นสุด… (เรื่องการอโหสิกรรม และการล้างบาปนี่ เป็นเรื่องที่น่าสนใจเช่นกันครับ เอาไว้จะเขียนเป็นบทความให้อ่านครับ)

3. ผู้รับต้องบริสุทธิ์ หัวข้อนี้ผมได้อธิบายไปแล้วข้างต้น (15 ข้อข้างบนนั่นแหละครับ)

เอาล่ะ ขออีกสักนิดเกี่ยวกับการให้ทานนะ…เพื่อตอบข้อสงสัยที่ว่า เราทำทานแล้วจะได้อะไร? จริง ๆ แล้ว การทำทานนั้นมีอานิสงส์หลากหลายรูปแบบมาก ๆ แต่ถ้าจะสรุปแล้ว การให้ทานจะส่งผลแห่งกุศลกรรมดังนี้ (ลองวิเคราะห์ดูนะครับว่าจริงไหม? อย่าเชื่อโดยไม่วิเคราะห์นะครับ)

1. เป็นที่รักและเคารพของคนหมู่มาก

2. เป็นที่คบหาของคนดี

3. เป็นผู้มีชื่อเสียงดี

4. ตายไปแล้วจะไปเกิดบนสวรรค์

จบเรื่องของการให้ทาน….เพียงเท่านี้………..ต่อไปจะอธิบาย การทำบุญแบบที่ 2….

2. สีลมัย หรือ การรักษาศีล หมายถึง การควบคุมกาย วาจา และใจ ของตนให้บริสุทธิ์หรือมีความสงบ…. ศีล เป็นเครื่องมือในการฝึกจิตให้สามารถควบคุมโทสะได้… โดยการให้งดเว้น หรือ ละ การกระทำบางอย่าง ซึ่งในภาษาบาลีคือคำว่า “วิรัติ” หรือ “เวรมณี”….. หลาย ๆ คน น่าจะคุ้นเคยกับคำว่า “เวรมณี” นะ โดยเฉพาะคนที่ชอบเข้าวัดรับศีล 5….. การวิรัติหรือการงดเว้นการกระทำที่ทำให้เกิดบุญนั้น มี 3 ประเภทด้วยกัน โดยแต่ละประเภทจะให้ผลของบุญต่าง ๆ กันด้วย ดังนี้

1. สัมปัตตวิรัติ คือ การงดเว้นที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า โดยไม่มีการรับศีลมาก่อน เช่น เราจะฆ่าสัตว์เพื่อนำมาทำอาหาร แต่เกิดสงสารเลยปล่อยไป แบบนี้ถือว่าได้บุญจากศีล…. แต่ถ้าไม่ฆ่าเพราะไม่มีโอกาสฆ่านี่ ไม่เกี่ยวนะ…. แบบนี้ไม่ได้บุญ…. นอกจากนี้บุญแบบสัมปัตตวิรัตินี้ จะเพียงแค่ชั่วขณะที่เรางดเว้นเท่านั้น เมื่อเราเปลี่ยนใจไม่ฆ่า ปล่อยสัตว์ตัวนั้นไป ก็จะได้บุญ ณ จังหวะเวลา นั้น เท่านั้น

2. สมาทานวิรัติ หรือ การงดเว้นด้วยการถือศีล หรือในทางปฏิบัติ ก็คือ การถือศีลกับพระนั่นเอง…. ทีนี้มันมีสิ่งสำคัญอีกนิดคือใจ….ระหว่างรับนั้น ใจ เราก็ต้องรับด้วยเช่นกัน ถ้าหากใจไม่รับ….ต่อให้กล่าวคำสมาทานศีลต่อหน้าพระเป็นร้อยเป็นพันครั้งก็ไม่ได้บุญนะ….. ส่วนบุญแบบสมาทานวิรัตินี้ จะเกิดขึ้นทันทีเมื่อเรารับสมาทานแล้ว และจะเกิดเรื่อย ๆๆๆๆๆๆ จนกว่าเราจะขาดจากศีล เช่น ตอนเช้าเรารับสมาทานศีล 5 ตอน 8 โมงเช้า พอ 11 โมงเช้า เราฆ่าไก่เพื่อจะนำมาทำกับข้าว เราจะได้บุญจากการรักษาศีลตลอดเวลาตั้งแต่ 8 โมง – 11 โมงเช้า เลยทีเดียว… และถ้าเราไม่ฆ่าสัตว์ตลอดปี เราจะได้บุญเรื่อย ๆๆๆๆๆ โดยอัตโนมัติตลอดทั้งปีเลยทีเดียว…. ดังนั้น การรักษาศีลแบบนี้จึงเป็นการทำบุญที่ได้อานิสงส์มากที่สุดวิธีหนึ่ง และไม่ต้องเสียเงินเลยสักบาท…. แค่ไปรับศีลจากพระและรักษาให้นานที่สุดเท่านั้นเอง…..

3. สมุจเฉทวิรัติ คือ การงดเว้นอย่างเด็ดขาดด้วยความคิดของตนเอง การเว้นประเภทนี้จะเกิดขึ้นได้ยากมากกับคนธรรมดา ปกติจะเป็นการงดเว้นของพระอริยเจ้า ซึ่งเป็นการงดเว้นที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ…

ดังนั้นสรุปว่า การได้บุญจากการรักษาศีลนั้น ถ้าเราสมาทานศีลสำเร็จ จะทำให้เราได้บุญตลอดเวลา จนกว่าเราจะขาดจากศีล….นอกจากนี้ผลของการรักษาศีลนั้น ยังให้อานิสงส์แก่เราอีกด้วย ผมจะอธิบายอานิสงส์ของศีล 5 แล้วกัน เพราะส่วนใหญ่จะถือศีล 5…..

ศีลข้อที่ 1 ห้ามฆ่าสัตว์ จะส่งผลให้เรามีชีวิตที่ยืนยาว ไม่ค่อยมีโรคภัยหรืออุบัติเหตุใด ๆ มาเบียนเบียด

ศีลข้อที่ 2 ห้ามลักทรัพย์ จะส่งผลให้เกิดความมั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีความเป็นอยู่สุขสบาย ทรัพย์สินไม่หายด้วยเหตุต่าง ๆ

ศีลข้อที่ 3 การไม่ประพฤติผิดในกาม จะส่งให้เราไม่มีศัตรู ไม่พลัดพรากจากของหรือคนที่เรารัก ไม่เป็นคนผิดหวังหรือเสียใจง่าย ๆ ไม่เกิดเป็นหญิงหรือกะเทยในภพหน้า

ศีลข้อที่ 4 การไม่พูดปด จะส่งผลให้เราเป็นคนพูดจาไพเราะ มีบริวารที่ว่าง่ายเชื่อฟังเรา คำพูดมีคนเชื่อถือ

ศีลข้อที่ 5 การไม่ดื่มสุราเมรัย จะส่งผลให้เราเป็นคนที่มีสติอยู่เสมอ ไม่เป็นบ้า ทำให้เป็นคนมีความรู้ และไม่เกียจคร้าน

และที่สำคัญอานิสงส์ของการรักษาศีลนั้น…. ต่อให้ทำทาน 100 ครั้งบุญที่ได้ยังไม่เท่ากับการรักษาศีล 1 ครั้ง…

ต่อไปบุญกิริยาวัตถุอีกหนึ่งประการ ที่เรามักจะเข้าใจผิด และปฏิบัติผิดมามาก….บุญกิริยาวัตถุประการสุดท้ายนี้ก็คือ

3. ภาวนามัย หรือ การเจริญภาวนา การภาวนานั้น ไม่ใช่การท่องมนต์…อย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจกัน…. จริง ๆ แล้ว การภาวนา แปลว่า การทำให้มีขึ้น หรือ การทำให้เกิดขึ้นจริง….สรุปก็คือ การภาวนา คือการปฏิบัติเพื่อทำให้เกิดผลอย่างที่ตั้งใจนั่นเอง…… เพียงแค่ในทางพระพุทธศาสนาของเรานั้น เป็นการศึกษาและปฏิบัติทางด้านจิตใจ ดังนั้น การภาวนาในทางพระพุทธศาสนาจึงเป็นการฝึกอบรมจิตใจ ซึ่งจะไม่สามารถเห็นได้ด้วยท่าทางกิริยาอย่างอื่น นอกจาก นั่ง เดิน ยืน และนอน……ที่สำคัญคือ อานิสงส์ การรักษาศีล 100 ครั้ง ยังไม่เท่ากับการภาวนา 1 ครั้ง…..

การภาวนานั้นแบ่งได้เป็น 2 ประการคือ
1. สมถภาวนา คือ การฝึกจิตใจให้เกิดความสงบ…ซึ่งหนึ่งในการปฏิบัติสมถภาวนาที่ผมคิดว่า ทุกคนจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ก็คือ การนั่งสมาธินั่นเอง….การนั่งสมาธินั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของ สมถภาวนาเท่านั้น….. สมถภาวนาสามารถทำได้ถึง 40 วิธีด้วยกัน วิธีอื่น ๆ ก็เช่น กสิณ อสุภะ พรหมวิหาร เป็นต้น และการให้อภัยทาน ที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นนั้น จัดอยู่ในการเจริญพรหมวิหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในสมถภาวนา นั่นเอง

2. วิปัสสนาภาวนา คือ การฝึกเจริญปัญญา ให้เกิดความรู้ความเข้าใจในอนัตตา….การปฏิบัติวิปัสสนาที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ ก็คือ การเดินจงกรม นั่นเอง และแน่นอน การเดินจงกรมเป็น 1 ในการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาเท่านั้น…….จริง ๆ แล้ว ยังมีการนั่ง การยืน และการนอนวิปัสสนาอีกด้วย

ทีนี้หลาย ๆ คน น่าจะมีคำถามว่า แล้วการสวดมนต์ล่ะ เป็นการเจริญภาวนาไหม? แล้วจะได้บุญไหม? ผมขอตอบว่า เป็นการเจิรญภาวนา จัดอยู่ในหมวดสมถภาวนา และได้บุญครับ…… การสวดมนต์เป็นกุศโลบายที่จะทำให้จิตใจสงบและเป็นสมาธินั่นเอง และคนที่สวดมนต์บ่อย ๆ จะได้บุญมาก….. แต่มีข้อแม้ว่าระหว่างที่สวดจิตใจจะต้องเป็นสมาธินะ…… ถ้าจิตใจว่องแวก…..การสวดมนต์นั้นจะไม่ได้บุญสักเท่าไหร่นะ….จะเป็นเพียงแค่การท่องมนต์เท่านั้นเอง

มาวมญฺเญถ ปุญฺญสฺส น มตฺตํ อาคมิสฺสติ

อุทพินฺทุนิปาเตน อุทกุมฺโภปิ ปูรติ

อาปูรติ ธีโร ปุญฺญสฺส โถกํ โถกํปิ อาจินํ..ติ….

ไม่ควรดูหมิ่นต่อบุญว่า มีประมาณน้อย จักไม่มาถึง, แม้หม้อน้ำย่อมเต็มได้ด้วยหยาดน้ำที่ตก ฉันใด, ผู้มีปัญญาสั่งสมบุญ แม้ทีละน้อย ๆ ย่อมเต็มได้ด้วยบุญ ฉันนั้น…

จากสุภาษิตข้างต้น พระพุทธเจ้าได้สอนเราว่า เราไม่ควรจะดูหมิ่นว่าบุญที่ทำนั้น มากหรือน้อย เพราะยังไงก็คือบุญ เมื่อทำไปเรื่อย ๆ ก็จะสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนบารมีเต็มเปี่ยมได้ ดังนั้นอย่าหยุดทำบุญแม้จะเป็นบุญเพียงเล็กน้อย ก็ควรทำ……..เพราะฉะนั้น เมื่ออ่านบทความนี้จบแล้ว อย่าไปหยุดให้อาหารพวกหมา แมวจนอดตาย ด้วยเหตุที่ได้บุญน้อยนะครับ…. เดี๋ยวผมจะบาปไปด้วย….อะไรที่ทำแล้วได้บุญก็ทำ ๆ ไปเถอะ…ยิ่งทำมากยิ่งได้มากนะ

สุดท้ายนี้ อย่าคิดง่าย ๆ ว่าเราจะทำบุญเฉพาะที่ได้บุญมาก ๆ เท่านั้น การคิดแบบนี้ถือว่าผิดอย่างมหันต์ครับ…. เคยเห็นไหม คนที่หน้าตาดี แต่จน คนที่บุคลิกไม่ดีเลย แต่กลับมีเงินทองใช้มากมาย รวมถึงพวกคนจิตใจชั่วร้าย แต่ดันเป็นคนที่มีอำนาจมีเงินทองมหาศาล….

สาเหตุที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นก็เพราะการทำบุญครับ เนื่องจากการทำบุญแต่ละอย่างจะให้อานิสงส์ที่แตกต่างกันครับ….. เช่น การทำทานทำให้รวย การล้างห้องน้ำทำให้สุขภาพแข็งแรง การปฏิบัติธรรม ทำให้มีสติปัญญาดี เป็นต้น ดังนั้นถ้าต้องการให้ชีวิตดีพร้อมทุกด้าน เราก็จะต้องทำบุญหลากหลายประเภทแบบไม่เลือกทำครับ…

ธรรมทาน แผ่นพับบทสวดมนต์สีสวย

การให้ธรรมะชนะการให้ทั้งปวง การพิมพ์หนังสือธรรมะแจก
ถือเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ บารมีมาก อานิสงส์สูงยิ่ง เพราะเป็นการให้ปัญญา
ให้แสงสว่าง ให้ความพ้นทุกข์ ให้ความสงบ ความสุขอันแท้จริงแก่คนและสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ได้สุขกายใจกันถ้วนทั่ว ด้วยพลังบุญแห่งภาวนา สมาธิ อโหสิกรรม
และการแผ่เมตตาอันสุดประมาณ เทพเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างสรรเสริญยินดี
ร่วมอนุโมทนาในบุญแห่งการสวดมนต์ ภาวนา สมาธินั้น

• บุญเกิดขึ้นทุกครั้ง ที่ผู้รับเกิดปิติ เกิดความสงบแห่งกาย ใจ จิต เกิดมหาสติ เกิดมหาปัญญา

• บุญเกิดขึ้นทุกครั้ง เมื่อผู้รับมีความสุข สงบ และแบ่งความสุขกาย สงบใจแห่งบุญนั้น ต่อๆไป

สวดมนต์ ภาวนา วิปัสสนา สมาธิ คือบุญใหญ่ อานิสงส์สูง ง่ายงามสำหรับทุกคน
การสร้างธรรมทาน แจกบทสวดมนต์ที่ถูกต้อง คุณภาพดี สีสวยงามประณีต
คือมหาธรรมทาน เป็นการส่งบุญ ส่งความสว่าง ความสงบ
มหาสติ มหาปัญญาไปสู่คนทั้งหลาย

เปรียบดั่งเราปลูกต้นบุญ อำนาจแห่งบุญก็เติบโตแผ่ขยาย แตกหน่องอกงาม
ออกดอก ออกผล แพร่ขยายร่มใบแห่งต้นบุญออกไปตลอดกาล
การสร้างหนังสือสวดมนต์แจกเป็นทาน
จึงชื่อว่าเป็นการปลูกต้นบุญชีวิต ต้นบุญแห่งธรรม
ดั่งพุทธพจน์กล่าวว่า..ผู้ใดให้ธรรมเป็นทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้นิพพานแก่คนทั้งหลาย

ธรรมทาน

“แผ่นพับบทสวดมนต์สีสวย”
หนังสือสร้างบุญ สร้างสุข สร้างปัญญาญาณ
ให้นิพพานแก่คนทั้งหลาย
บุญประณีต อิ่มใจผู้ให้ สุขใจผู้ให้

● สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ
● สพฺพํ รสํ ธมฺมรโส ชินาติ
● สพฺพํ รตึ ธมฺมรตี ชินาติ
● ตณฺหกฺขโย สพฺพทุกฺขํ ชินาติ.

● ธรรมทานย่อมชนะทานทั้งปวง
● รสแห่งธรรมย่อมชนะรสทั้งปวง
● ความยินดีในธรรมย่อมชนะความยินดีทั้งปวง
● ความสิ้นไปแห่งตัณหาย่อมชนะทุกข์ทั้งปวง.

บทสวดมนต์ พระคาถาศักดิ์สิทธิ์ ๑๙ บท

พร้อมด้วยคาถาบูชาดวงชะตา บทขออโหสิกรรม บทแผ่เมตตาอุทิศบุญครบสูตร

กรอบเดินลายทองเทวบุตร เทวดา พญานาคราช พระพุทธเจ้ารักษา เป็นมหามงคล
รูปเล่มขนาดกระทัดรัด พกพาสะดวก ยกลายเดินทองบนพื้นสีสวย กระดาษอาร์ตเคลือบด้านกันน้ำ
กันแสงสะท้อน ถนอมสายตา พลิกหน้าสวดมนต์เรียงตามเลขหน้าสะดวกมาก
ลำดับบทสวดมนต์ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์สำหรับการสวดมนต์ประจำวัน

๑๐ สีสวยเดินลายทองเทวบุตร เทวดา

๑. สีแดง เดินลายทอง ( วันอาทิตย์ )
๒. สีดำ เดินลายทอง ( วันจันทร์ )
๓. สีชมพู เดินลายทอง ( วันอังคาร )
๔. สีเขียวมรกต เดินลายทอง ( วันพุธ )
๕. สีส้ม เดินลายทอง ( วันพฤหัสบดี )
๖. สีฟ้า เดินลายทอง ( วันศุกร์ )
๗. สีม่วง เดินลายทอง ( วันเสาร์ )
๘. สีน้ำตาล เดินลายทอง
๙. สีน้ำเงิน เดินลายทอง
๑๐. สีเงิน เดินลายทอง

ขนาด ۰แผ่นพับบทสวดมนต์สีสวย۰
ขนาดเล่ม 6 x 3 นิ้ว

ขนาดเมื่อกางออก 6 x 18 นิ้ว
8 พับ 16 หน้า

๑๙ บทสวดมนต์ พระคาถาศักดิ์สิทธิ์

๑. บทบูชาพระรัตนตรัย
๒. บทกราบพระรัตนตรัย
๓. บทนอบน้อมพระพุทธเจ้า
๔. บทขอขมาพระรัตนตรัย
๕. บทไตรสรณคมน์
๖. คำสมาทานศีล5
๗. บทถวายพรพระรัตนตรัย (อิติปิโสฯ)
๘. พุทธชัยมงคลคาถา
๙. มหาการุณิโก
๑๐. สรรพมงคลคาถา
๑๑. คาถาชินบัญชร
๑๒. อิติปิโสฯ
๑๓. คาถาบูชาดวงชะตา
๑๔. บทแผ่เมตตาแก่ตนเอง
๑๕. บทแผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์
๑๖. บทแผ่บุญกุศล
๑๗. คาถาล้างกรรม (หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค)
๑๘. บทขออโหสิกรรม-ถอนสาบาน
๑๙. บทกรวดน้ำแผ่เมตตา ( หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)

ออกแบบแผ่นพับให้พลิกเปิดสวดมนต์ตามลำดับเลขหน้าได้สะดวก เรียงลำดับบทสวดมนต์ถูกต้อง

►ไ ม่ มี พิ ม พ์ ชื่ อ เ จ้ า ภ า พ ◄
บทสวดมนต์ดีงามเต็ม 16 หน้า 8 พับ
ครูบาอาจารย์ท่านว่า..เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ให้ และ ผู้รับเหลือคณา

เลือกสีได้ 2 แบบ

>> แบบ A คละสี >> 100 เล่ม คละ 10 สีๆละ 10 เล่ม

>> แบบ B สีเดียว >> 100 เล่ม 1 สี

ราคาแผ่นพับบทสวดมนต์สีสวย

ราคาเล่มละ ๑๓ บาท
๑ กองบุญ มี ๑๐๐ เล่ม
กองบุญละ ๑,๓๐๐ บาท
บวกค่าจัดส่งตามน้ำหนัก

☼ ไม่มีกำหนดขั้นต่ำ สั่งกี่เล่มก็ได้ มากหรือน้อยก็ราคาเดียวกันค่ะ 【เล่มละ ๑๓ บาท 】
☼ ต้องการขอรับฟรี กรุณาทักมาที่ Line : @nammon ค่ะ แจ้งวันเกิดด้วยนะคะ น้ำมนต์จะส่งให้ตรงตามสีวันเกิดค่ะ

ธรรมทานบทสวดมนต์สีสวยบุญใหญ่ อานิสงสฺ์สูง
แจกแผ่นพับบทสวดมนต์สีสวย
สร้างบุญด้วยการให้ปัญญา ให้ความสงบ ความสุข ความสว่าง
แก่คนทั้งหลายให้ได้สุขใจทั่วหน้า สวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดีๆแต่ต้นปี
เพื่อชีวิตดีตลอดปีและตลอดไป ดังพุทธพจน์กล่าวว่า..
ผู้ใดให้ธรรมเป็นทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้นิพพานแก่คนทั้งหลาย
ให้ความเป็นคน ให้สติปัญญา
ให้ความพ้นทุกข์ ให้ทางสว่างแห่งธรรม

การสวดมนต์ไหว้พระนั้น ถึงแม้ว่าเราจะออกเสียงหรือไม่ออกเสียงก็ตาม พวกเทพเจ้าเหล่าเทวดาเขามีหูทิพย์ตาทิพย์ เขาก็จะได้ยินเสียงที่เราสวดมนต์ไหว้พระด้วยพระสูตรต่างๆ เมื่อเขาได้ยิน เขาก็จะเกิดความปีติยินดีในการสวดมนต์ไหว้พระกับเรา เขาก็จะพากันมาร่วมอนุโมทนาบุญกับเราด้วย ถ้าจิตเราสงบลงไปบ้างสักเล็กน้อย เราก็จะได้ยินเสียงที่เขามาอนุโมทนากับเรา เสียงที่เขาเปล่งสาธุการนั้นมันดัง ปานฟ้าสิถล่มทลายลงมาทับดิน คลื่นเสียง เป็นแรงสั่นสะเทือนสามารถเดินทางได้ไกล เสียงสวดมนต์เป็นคลื่นเสียงแห่งบุญ แห่งความดี ยิ่งทำด้วยจิตสงบยิ่งกว้างไกลขึ้น ฉะนั้นสวดมนต์กันบ้างเลือกบทสวดที่ชอบ จะเป็นบาลี สันสกฤต ธิเบต ก็แล้วแต่ล้วนแต่มีอานุภาพทั้งนั้น

– หลวงปู่ชอบ ฐานสโม –

บทสวดมนต์สีสวย 5 กองบุญ รับกล่องญาณเสียงธรรมศักดิ์สิทธิ์

ร่วมบุญ 5 กองบุญ (500 เล่ม)
รับมอบกล่องญานลำโพงเสียงธรรมศักดิ์สิทธิ์ 1 เครื่อง »» ลำโพง Blue Tooth
คุณภาพสูง ขนาดเล็กๆน่ารักมาก ขนาด 4.5 x 9 x 6 CM.
มี 6 สีสวย ใช้งานง่าย พกพาสะดวกเปิดฟังได้ทุกที่ บรรจุเสียงสวดมนต์
และ บทบรรยายธรรม เต็ม 16 GB

กล่องญานเสียงธรรมศักดิ์สิทธิ์นี้เปิดที่ไหนที่นั้นศักดิ์สิทธิ์ ปลุกเสกธาตุทั้งห้าในกาย บ้านเรือนร้านค้า ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ ให้ศักดิ์สิทธิ์ด้วยพลังพุทธมนต์ เทพเทวา สรรพสิ่ง สรรพสัตว์ทั้งหลาย จิตญานทั้งหลาย ล้วนยินดีในธรรม บังเกิดภูมิธรรม ปัญญาญาน ความรู้ ความสงบสุขจากมนตราอันศักดิ์สิทธิ์และเสียงธรรมอันทรงคุณค่าหาฟังได้ยากนับพันบท เหมาะสำหรับทุกท่าน ทุกคน ทุกเพศทุกวัย ทุกสถานที่


✅ กล่องญาณสำหรับแจกฟรีเป็นธรรมทานเท่านั้น‼ ไม่มีจำหน่าย ❌
✅ ดูสารบัญธรรมได้ที่ไลน์นี้ LINE:@nammon
✅ หรือกดที่นี่► https://line.me/R/ti/p/%40nammon
ธรรมทานแผ่นพับบทสวดมนต์สีสวย 

❌❌ กล่องญานลำโพงเสียงธรรมศักดิ์สิทธิ์ ❌❌
คลื่นมนตราเสียงสวดมนต์เป็นคลื่นเสียงแห่งบุญ แห่งความดี คือแสงสว่าง คือคลื่นแห่งการเยียวยา คลื่นเสียงมนตราทำให้เกิดคลื่นเสียงที่มีความสม่ำเสมอ เข้าไปกระตุ้นร่างกายให้เกิดการเยียวยา เมื่อหูของเราได้ยินเสียง บทสวด ก็จะส่งสัญญาณต่อไปยังศูนย์การได้ยินที่อยู่บริเวณสมองกลีบขมับ ก่อนส่งไปบริเวณก้านสมอง ซึ่งเมื่อได้รับคลื่นเสียงช้าๆ สม่ำเสมอประมาณ 15 นาที ก็จะหลั่งสารสื่อประสาทที่มีประโยชน์มากมาย

“สมองของ เราเมื่อได้รับการกระตุ้นด้วยคลื่นเสียงช้า ๆ สม่ำเสมอประมาณ 15 นาทีขึ้นไป จะทำให้เซลล์ประสาทของระบบประสาทสมองสังเคราะห์สารสื่อประสาทหลายๆชนิด บริเวณก้านสมองจะหลั่งสารสื่อประสาทชื่อ ซีโรโทนิน (serotonin) เพิ่มขึ้นซึ่งมีฤทธิ์คล้ายยานอนหลับ ช่วยการเรียนรู้ ลดความเครียด ลดอาการซึมเศร้า ลดระดับน้ำตาลในเลือด และเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารสื่อประสาทอื่นๆ เช่น เมลาโทนิน ซึ่งเปรียบคล้ายกับยาอายุวัฒนะ เพราะจะช่วยยึดอายุการทำงานของเซลล์ประสาท เซลล์ร่างกาย ให้ชีวิตยืนยาวขึ้น และยังมีคุณสมบัติช่วยให้นอนหลับ เพิ่มภูมิต้านทาน ทำให้เซลล์สดชื่นขึ้น

รวมถึง โดปามีน มีฤทธิ์ลดความก้าวร้าวและอาการพาร์กินสัน นอกจากนี้ปริมาณของซีโรโทนินมีความสัมพันธ์ต่อการกระตุ้นการหลั่งสารสื่อ ประสาทอื่น ๆ เช่น อะเซทิลโคลีน ช่วยในกระบวนการเรียนรู้และความจำ ช่วยขยายเส้นเลือด ทำให้ความดันลดลง และยังช่วยลดปริมาณ อาร์กินิน วาโซเปรสซิน ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมความก้าวร้าว ความสมดุลของน้ำ และซีโรโทนินยังเข้าไปลดปริมาณของสารเคมีชนิดหนึ่งที่เป็นตัวกระตุ้นของการ ทำงานของต่อมหมวกไตให้ลดลง ส่งผลให้ระบบประสาทส่วนกลางทำงานน้อยลง ร่างกายจึงรู้สึกผ่อนคลาย ปลอดโปร่ง และไม่เครียด ภูมิต้านทานเพิ่มขึ้น”

วัตถุมงคลล้ำค่าที่ระลึก

1 กองบุญ 100 เล่ม ได้รับ พระพุทธเจ้าน้อย เนื้อทองโบราณ 1 องค์

5 กองบุญ 500 เล่ม ได้รับ กล่องญาณเสียงธรรมศักดิ์สิทธิ์ 1 เครื่อง

6 กองบุญ 600 เล่ม ได้รับ พระพุทธเจ้าน้อย เนื้อเงิน 1 องค์

15 กองบุญ 1,500 เล่ม ได้รับ พระพุทธเจ้าน้อย เนื้อทองคำแท้ 1 องค์

ช่องทางการแจกธรรมทาน

  • ถวายธรรมทานนี้แด่พระพุทธองค์ประธาน ในวิหาร โดยขอโหสิกรรม แผ่เมตตา อุทิศบุญตั้งแต่หน้า ๑๒ ถึง หน้า ๑๕
    แล้วนำไปวางถวายไว้ในจุดที่วัดจัดไว้ให้วางธรรมทาน หรือ วางถวายไว้บนตู้บริจาค { การถวายธรรมทานแบบนี้ ถือว่าถูกสถานที่
    ถูกบุคคลอย่างยิ่ง }แล้วอย่าลืมแผ่เมตตา อุทิศบุญ กรวดน้ำให้กับทุกสรรพสิ่ง ทุกสรรพสัตว์ เนื้อความหน้า ๑๔ ถึง ๑๖
    บอกไว้ครอบคลุมละเอียดค่ะ สำคัญคือ..ใจต้องคิดเมตตาส่งไปด้วยนะคะ

หมั่นตั้งจิตอธิษฐานสร้างบุญ 9 วัดดูค่ะ ไปทำบุญทำทานและพักผ่อนไปกับครอบครัวด้วย
การหมั่นสร้างธรรมทานร่วมกับคนใกล้ชิด ไม่ว่าจะครอบครัว บริวาร เพื่อน
จะทำให้ชีวิตราบรื่นขึ้นปัญหาต่างน้อยลง เพราะเขาเหล่านั้นคือ พลังงานที่ใกล้ชิดเรา มีผลกับชีวิตเรามากที่สุด

  • จัดเป็นชุดสังฆทาน ถวายแด่พระภิกษุ
  • แจกเป็นของชำร่วยแห่งบุญ ในงานมงคล และงานอวมงคล มีอานิสงส์สูงยิ่ง เลือกสีอ่อนหวานเย็นตาสำหรับงานมงคล
    สีขรึมสุภาพสำหรับงานอวมงคล
  • นำไปถวายโรงพยาบาลสงฆ์ พุทศาสนิกชนที่มาทำบุญชอบหยิบกลับไปสวดมนต์มากๆ
  • บ้านคนชรา เด็กกำพร้า คนพิการ คนด้อยโอกาส และเรือนจำ ที่เหล่านี้หลายท่านลืมนึกถึง แจกเขาแล้ว
    วางไว้แจกคนที่มาแวะมาเยี่ยมมาทำบุญด้วยก็จะดีมากค่ะ
Instagram did not return a 200.
[ux_products products=”14″ show=”featured”]