พระสีวลีเถระ ผู้เลิศในทางโชคลาภ บูชาท่านจักทำให้เกิดความร่ำรวยในการทำมาค้าขาย มีคนรักใคร่นับถือ

พระสีวลีเถระ หรือ พระฉิมพลี ท่านเป็นพระอรหันต์ ที่มีบารมีทางด้านโชคลาภ ไม่ว่าท่านจะไป สู่ที่แห่งใด ก็มักจะเกิดลาภกับท่านอยู่เสมอ อาศัยบารมี ของพระสิวลีนี่เอง ทำให้ผู้ที่เคารพบูชาท่านได้รับผล เป็นความสงบสุขร่มเย็น และสมบูรณ์พูนสุขด้วยโภคทรัพย์

พระสีวลีเถระ หรือ พระฉิมพลี เป็นพระภิกษุสาวกเอตทัคคะของพระพุทธเจ้า นับเนื่องในพระอสีติมหาสาวก 80 องค์สำคัญในพระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาล

พระสีวลีเถระเป็นเจ้าชายในโกลิยวงศ์ ออกบวชในสำนักพระสารีบุตร บรรลุพระอรหันต์ในขณะที่ปลงเกศานั่นเอง และหลังจากผนวช ท่านเป็นผู้มีลาภสักการะมากด้วยกุศลกรรมที่ทำมาแต่อดีต ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้รับยกย่องจากพระพุทธองค์ให้เป็นเอตทัคคะผู้เลิศในทาง ผู้มีลาภมาก

นะ หนึ่งพึงอ่อนน้อม นรชน
ชา ตื่นแต่เช้าทน ต่อสู้
ลี รู้จักขวนขวาย ทางชอบ ขยันนา
ติ อิดังนี้ผู้ สืบสร้างจึงรวยฯ

๑. คำว่า “นะ” คำนี้นั้นไซร้ ท่านว่ามาจากคำว่า “นะโม” ซึ่งคำว่านะโม มีความหมายถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ได้วางตนเหนือผู้อื่น ไม่ดูถูกใคร และน้อมรับฟังคำตำหนิจากผู้อื่น ไม่ว่าจะอ่อนเยาว์กว่าหรือว่าสูงวัยกว่า นอกจากนี้ยังหมายถึงการที่ปราศจากความดื้อดึงในกมลสันดานอีกด้วย

๒. คำว่า “ชา” คำว่า “ชา” นั้นไซร้ท่านว่ามาจากคำว่า “ชาคริยานุโยค” ซึ่งมีความหมายตรงตัวก็คือ เป็นผู้ที่ตื่นเช้า นั่นก็หมายถึงผู้ที่มีความขยันขันแข็ง ไม่เกียจคร้านเอาแต่นอน โดยความขยันนี้เป็นการช่วยทำกิจการต่าง ๆไม่ว่าจะเป็นการงานนอกบ้าน หรือจะเป็นการงานในบ้าน และยังรวมไปถึงการรู้จักรับผิดชอบในงานของตนอีกด้วย

๓. คำว่า “ลี” คำว่า “ลี” นั้นไซร้ ท่านว่ามาจากคำว่า “สีฬหะ” หรือหมายถึงผู้ที่มุ่งมั่นที่จะทำงานในทางที่ชอบ ทางที่ชอบในที่นี้หมายถึงทางที่ถูกต้องตามศีลธรรม ไม่ใช่ทางทุจริต อย่างการทำงานนั้นก็ต้องทำงานที่สุจริต ถูกกฎหมาย และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เช่นนี้แหละที่จะถือว่าเป็นงานที่ชอบตามความหมายของ “ลี” ในพระคาถา

๔. คำว่า “ติ” คำว่า “ติ” นั้นท่านว่ามาจากคำว่า “อิติ” ซึ่งมีความหมายว่า “ดังนี้” ก็เหมือนกับเป็นการสรุปความข้างต้นทั้งหมดว่าเป็นดังนี้ มีดังนี้ และจงปฎิบัติดังนี้นั่นเอง

การที่เราบูชาพระสีวลีในยามค่ำคืนนั้นจะช่วยทำให้จิตใจของเราผ่องใส ซึ่งหากว่าเราตื่นแต่เช้าไปทำงานสุจริต พระสีวลีเองก็จะชื่นชมและให้ความคุ้มครองดูแล รวมไปถึงการให้ลาภต่างๆ นั่นเอง

ผู้บูชาพระสีวลีปางธูดงค์ จะบันดาลให้มีโชคมีลาภ ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ คิดหวังสิ่งใดก็จะเป็นตามที่ใจปรารถนา มียศสรรเสริญ มีแต่คนไหว้นับถือ ไม่มีอดอยาก มีข้าวของเงินทองเครื่องใช้พร้อมบริบูรณ์ ชีวิตมีความสุข ถามหาความทุกข์นั้นหาไม่เจอ ในยามที่มีอันตรายใดๆ ก็จะแคล้วคลาด หรือไม่บุญบารมีของพระสีวลีก็จะช่วยผ่อนสิ่งที่หนักอยู่ให้กลายเป็นเบาลง

เนื่องด้วยพระสีวลีทำการคุ้มครองผู้ที่นับถือบูชาพระองค์ และตั้งมั่นในพระพุทธศาสนา ดำรงอยู่ในศีล ๕ นั่นเอง

 

**พุทธคุณ**
-พระสีวลี พระอรหันต์บรรดาลโชคลาภ แม้แต่พระพุทธเจ้ายังยกย่อง หากท่านใดมีไว้บูชา จะทำให้เกิดความร่ำรวยในการทำมาค้าขาย มีคนรักใคร่นับถือ ศัตรูหมู่มารร้ายและภัยอันตรายต่างๆ ไม่สามารถจะย่ำยีหรือทำร้ายได้ จะมีแต่ความสุขศิริสวัสดิ์มงคล “แม้เพียงเอ๋ยนามหรือสวดพระคาถารำลึกถึงพระสีวลีด้วยความเลื่อมใส ลาภสักการะก็จักไหลมาสู่บุคคลผู้นั้นราวกับสายน้ำ ความอุดมสมบูรณ์ทั้งปวงก็จะพลันบังเกิดขึ้น”

 

ธรรมทาน
แผ่นพับสวดมนต์สีสวย

บุญประณีต บารมีมาก อานิสงส์สูง
หนังสือธรรม สร้างบุญ สร้างสุข สร้างความดี
ให้ปัญญา ให้ความรู้ ให้ความสุข สงบ พบพระธรรม

สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ
ก า ร ใ ห้ ธ ร ร ม เ ป็ น ท า น
ช น ะ ก า ร ใ ห้ ทั้ ง ป ว ง

พระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้ให้ข้าวน้ำ ถือว่าให้กำลัง
ผู้ให้เสื้อผ้าถือว่าให้ความสวยงาม
แต่ ผู้ให้ธรรมะเป็นทานถือว่าเป็นผู้ให้ความเป็นคน
ให้สติปัญญา ให้ความพ้นทุกข์ ให้ทางแห่งธรรม

” ธรรมทาน ” เป็นบุญใหญ่บารมีมาก อานิสงส์สูงยิ่งเพราะเป็นการให้ปัญญา
ให้สติ ให้แสงสว่าง ให้ความสุข สงบ ชุ่มเย็นอันแท้จริงแก่คนและสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ให้สุขกายใจกันถ้วนทั่ว ด้วยพลังบุญแห่งภาวนา สมาธิ การแผ่เมตตา อโหสิกรรม
เทพเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างสรรเสริญยินดีร่วมอนุโมทนาในบุญ
แห่งการสวดมนต์ภาวนาสมาธินั้น

ด้วยเหตุนี้..บุญแห่ง ” ธรรมทาน “

จึงเป็นทานที่บารมีสูงผู้สร้างได้บุญมากอานิสงส์แรง
เพราะเป็นบุญแห่งปัญญา ที่ให้แก่ตนเองและผู้รับได้ครบทุกอย่าง
เป็นการให้ที่ถึงแก่นธรรมอย่างแท้จริง ผู้สร้างบุญจักได้รับพลานุภาพแห่งบุญ
อยู่ทุกขณะ ดั่งเงาตามตัวตามติดจิตวิญญาน กระแสแห่งบุญนั้นจะตามส่งผล
บุญจะเกิดขึ้นทุกครั้ง เมื่อผู้รับ  สวดมนต์ทำสมาธิ มหาอานิสงส์บารมี
เกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อผู้รับ  ขออโหสิกรรม  ให้อภัยทานให้อโหสิกรรม
แผ่เมตตา  อุทิศบุญแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย บุ ญ เ กิ ด ขึ้ น ทุ ก ค รั้ ง
ที่ผู้รับเกิดปิติ เกิดความสงบแห่งกาย ใจ จิต  เกิดมหาสติ เกิดปัญญา
มหาบุญบารมีเกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อผู้รับมีความสุข และแบ่งความสุขกาย
สุขใจแห่งบุญนั้นๆต่อๆไป

 เมื่อมีหนึ่งคนสวดมนต์ แผ่เมตตา ทำสมาธิ เราผู้สร้างทานก็ได้รับมหาอานิสงส์แห่งบุญนั้นๆด้วย
ผู้รับพันคน บุญเข้ามาหาเราพันทาง หมื่นทาง แสนทาง กระแสบุญถูกส่ง-รับ แผ่ขยายต่อๆออกไป
มิสิ้นมิสุด อำนาจบุญ พลังแห่งความดีงาม สว่าง สงบ ชุ่มเย็น แผ่ไพศาลไปทั่วอนันตจักรวาล
กระแสบุญเกิดตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้เอง ” การสร้างธรรมทาน แจกหนังสือสวดมนต์ “ จึงเป็นบุญใหญ่
มีอานิสงส์แห่งบุญบารมีสูงยิ่ง เปรียบดั่งเราปลูกต้นบุญ อำนาจแห่งบุญก็เติบโตแผ่ขยาย
แตกหน่องอกงาม ออกดอก ออกผล แพร่ขยายบุญออกไปตลอดกาล การสร้างหนังสือสวดมนต์แจก
เป็นทานจึงชื่อว่าเป็นการปลูกต้นบุญชีวิต ต้นบุญแห่งธรรม

 มหาบุญกุศลนั้นจักส่งผลให้เจริญศรี เจริญสุขทั้งทางโลกและทางธรรม มีสติปัญญาเฉียบคม พร้อมด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ อายุ วรรณะ สุขะ พละ กายผ่องแผ้วจิตผ่องใส เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม เปิดทางสว่างให้ชีวิต เคราะห์ร้ายอุปสรรคอันตรายสิ้นสูญ เทพเทวาเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สรรพสัตว์ทั้งหลายเมตตารักใคร่ ปกปักคุ้มครองรักษา ช่วยเหลือให้ผ่านพ้นเคราะห์ อุปสรรค พบแต่สิ่งดีงาม ประสบความสำเร็จทุกสิ่งอันเป็นบุญ และยังส่งผลถึงบิดามารดา ครอบครัว สามีภรรยา บุตรหลาน ญาติเชื้อวงศ์วาน ให้พบแต่ความรุ่งเรืองมีศีลธรรม เมื่อละสังขารไปก็จักได้อยู่ในภพภูมิที่สูง

” ธรรมทาน “ เป็นการสร้างบุญที่เจ้ากรรมนายเวรพอใจและต้องการมากที่สุดบุญหนึ่ง

โดยเฉพาะ เจ้ากรรมนายเวรที่เป็นดวงจิตวิญญาน เพราะทุกครั้งที่เราอุทิศอานิสงส์แห่งการสร้างบุญด้วยธรรมทานนี้ไปถึงเขา ที่เหลือเพียงดวงจิต ไม่มีร่างกาย กระแสบุญแห่งปัญญานี้จะนำเขาไปสู่ภพภูมิที่ดี และบุญกุศลนี้ จะนำมาซึ่งการให้อโหสิกรรมได้โดยง่าย เร็วที่สุด อันเป็นหนทางหนึ่งที่ระงับเวรได้ แต่กรรมเราก็ยังต้องรับ แต่ในบางกรรมจะเบาบางลดกำลังลงจนแทบทำอะไรเราไม่ได้เลย ด้วยบุญที่เราทำนั้นเกิดผลที่แรงกว่า

 ผูัให้ธรรมทาน จึงชื่อว่าให้ปัญญา ให้แสงสว่าง ให้ความพ้นทุกข์ ส่งผลให้มีสติปัญญาเห็นแจ้ง ในมรรคผล
เข้าถึงสุขสูงสุดในนิพพาน

 ผู้ใดให้ธรรมเป็นทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้นิพพานแก่คนทั้งหลาย

 ” ธรรมทาน ” นี้ถือว่าเป็นอภัยทานได้ หากเราวางใจ ด้วยการให้ธรรมทานนี้เป็นการให้เพื่อ
“ให้อโหสิกรรม” และ ” ขออโหสิกรรม ” ไปพร้อมๆ กัน

 ออกแบบแผ่นพับให้เปิดเรียง
ตามลำดับเลขหน้า
บทสวดมนต์เรียงลำดับถูกต้อง
เปิดพลิกหน้าได้สะดวก

  ขนาดแผ่นพับ 6 x 3 นิ้ว
เมื่อกางออกขนาด 6 x 18 นิ้ว
มี 16 หน้า
เรียงลำดับการสวดมนต์ประจำวัน
ครบสมบูรณ์ ดังนี้

๑. บทบูชาพระรัตนตรัย
๒. บทนมัสการพระรัตนตรัย
๓. บทชุมนุมเทวดา
๔. บทอารธนาศีล
๕. บทนมัสการพระพุทธเจ้า
๖. ไตรสรณคมน์
๗. บทสมาทานศีล 5
๘. บทถวายพร
๙. บทชัยมงคลคาถา

๑๐. บทชัยปริตร (มหากาฯ)
๑๑. บทชินบัญชร
๑๒. บทอิติปิโส
๑๓. บทแผ่เมตตาตนเอง
๑๔. บทแผ่เมตตาสรรพสัตว์
๑๕. บทแผ่นส่วนบุญกุศล
๑๖. บทให้อโหสิกรรม ขออโหสิกรรม ถอดถอนสาบาน
๑๗. บทอุทิศบุญแผ่เมตตาครอบจักรวาล

ไม่มีพิมพ์ชื่อเจ้าภาพ

เนื่องจากใช้พื้นที่เพิ่มบทสวดขออโหสิกรรมถอดถอนคำสาบาน และบทแผ่เมตตาครอบจักรวาล ซึ่งเกิดประโยชน์ต่อผู้ให้และรับ
ได้อานิสงส์สูงมาก

ธรรมทาน บทสวดมนต์ สีสวย