ปริศนาธรรม บนธงกฐิน รัก โลภ โกรธ หลง ให้พึงสังวรณ์ ระงับอารมณ์ทั้งหลายด้วยสติ และรู้เท่าทันอารมณ์

1. ธงจระเข้ เป็นปริศนาธรรมสื่อถึง ความโลภ เป็นที่ทราบกันว่าจรเข้นั้น เวลากินอะไรเข้าไปไม่รับรู้รสว่า มีรสชาติอย่างไร เจออะไรก็กลืนเข้าไป โบราณจึงเปรียบพฤติกรรมการกินของจรเข้าด้วยความโลภ กินได้กินดีไม่รู้จักเบื่อ ความโลภก็คือสภาพที่หิวกระหายอยากได้อยากครอบครองไปเสียทุกอย่างไม่รู้สึกเบื่อหน่ายไม่รู้สึกอิ่ม สภาวธรรมที่ตรงกันข้ามกับความโลภก็คือ ทาน การให้ เมื่อจิตคิดจะให้จะสบายกว่าจิตที่คิดจะเอา เมื่อไรความรู้สึกเสียสละเกิดขึ้นความอิ่มก็จะตามมาทันที คือ ความอิ่มใจเกิดจากการให้และการเสียสละ คนที่มาร่วมงานทอดกฐิน คือ คนอิ่มที่มาด้วยความเสียสละ อันได้แก่ความเสียสละทั้งกำลังกาย กำลังใจ กำลังความสามารถและกำลังทรัพย์

2 ธงตะขาบ คนโบราณซ่อนปริศนาธรรม คือ ความโกรธไว้ในความหมายของตะขาบ เวลาความโกรธเผาใจ ร่างกายเร่าร้อนเดินไปเดินมาหยุดอยู่กับที่ไม่ได้เปรียบเสมือนตะขาบที่มีขาออกมามากมาย ใครเข้าไกล้ตะขาบก็จะถูกกัดจนเจ็บ เวลามีความโกรธหากทำร้ายใครไม่ได้ก็จะใช้คำพูดกัดคนอื่นให้เจ็บใจ ซึ่งบางทีความเจ็บที่ใจอันเกิดจากการกัดด้วยวาจานั้น หายช้ากว่าแผลที่กัดด้วยปากตีด้วยไม้เรียวหรือด้วยมือเสียอีก ปริศนาธรรมจากตะขาบเตือนว่า อย่าไปกัดใครเข้านะ แผลที่กัดนั้นจะหายช้า ส่วนสภาวธรรมที่ตรงกันข้ามกับความโกรธก็คือ ความเมตตาและกรุณา เมื่อใดที่ความเมตตากรุณาสถิตอยู่ในใจ เวลาพูดจาก็ออกมาหอมหวานประดุจดอกไม้และน้ำผึ้ง เวลาแสดงออกทางกายก็น่าประทับใจ จึงควรเจริญเมตตาเป็นประจำ เพื่อทำให้ใจสงบอันจะเป็นผลดีต่อการแสดงออกทางกายและวาจาที่น่ารักน่าประทับใจสืบไป

3 ธงเงือก สัตว์ในวรรณคดีมีลักษณะคล้ายปลาหรือครึ่งปลาครึ่งคน ซ่อนปริศนาธรรม แห่งความหลงเอาไว้ หมายถึงมนุษย์ทั่วไปหลงไหลในความงาม จึงใช้สัญลักษณ์เงือกสื่อถึงความหลง โบราณได้สอนธรรมะผ่านปริศนาธรรมนี้ว่า การเดินเข้าวัด เพื่อฝึกหัดให้ชีวิตมีปัญญา คือ รู้เท่าทันสรรพสิ่งตามความเป็นจริง มิใช่เข้าวัดหรือเข้าหาธรรมะเพื่อลุ่มหลงมัวเมาในสิ่งใดๆไม่ว่าจะเป็นลาภ ยศ สรรเสริญ สุข หรือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะหรือธรรมารมณ์

4 เต่า เป็นสัญลักษณ์แห่งการสำรวมและระวัง เต่ามีกระดองเป็นเครื่องป้องกันอันตราย อวัยวะที่โผล่พ้นออกมาจากกระดองมี หัว หาง และเท้า 4 เท้ารวมเป็น 6 เมื่อเจออันตรายใครจะทำร้ายหรือสัตว์อื่นจะทำร้ายเต่าจะเก็บอวัยวะเหล่านี้เข้าไปในกระดอง เปรียบเหมือน มนุษย์มีอายตนะ6 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ถ้าเผลอไม่ระวังเมื่อใด กิเลสก็จะขบกัดเอาทางตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ ถ้าสำรวมระวังได้กิเลสก็จะไม่ขบกัดเอาเหมือนเต่าเก็บอวัยวะในกระดอง สติที่ห้ามความชั่วและกิเลสทั้งปวงได้เปรียบเหมือนกระดองเต่า เต่ามีกระดองป้องกันทุกข์ภยันตรายจนมีอายุยืนยาวดังคำที่ว่าเต่าล้านปี อายุจริงของเต่าจะถึงล้านปีหรือไม่ก็ไม่เป็นไรแต่สำนวนนี้ย่อมสื่อว่า เต่าอายุยืน สาเหตุหลักที่เต่ามีอายุยืนเพราะมีกระดองป้องกันอันตราย มนุษย์ก็เช่นกันถ้ามีสติสำรวมระวังกายวาจาและใจ ก็มีอายุยืนและสงบสุขปลอดจากการคุกคามของกิเลสถึงสุขทั้งกายและใจอย่างยั่งยืนได้เช่นกัน

ธรรมทาน ชนะการให้ทานทั้งปวง

การพิมพ์หนังสือธรรมะแจก เป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ อานิสงส์สูง บารมีมาก เพราะเป็นการให้ปัญญา ให้แสงสว่าง ให้ความพ้นทุกข์ ให้ความสงบ ความสุขอันแท้จริงแก่คนทั้งหลาย ให้สุขกาย สุขใจกันถ้วนทั่ว ด้วยพลังแห่งการสวดมนต์ ภาวนา วิปัสนา สมาธิ คือบุญใหญ่ อานิสงส์สูง ง่ายงามสำหรับทุกคน

การสร้างหนังสือสวดมนต์แจกเป็นมหาทาน
จึงเป็นการส่งบุญ มอบแสงสว่าง มหาสติ มหาปัญญา ให้แก่คนทั้งหลาย
ดั่งพุทธพจน์กล่าวไว้ว่า…
“ผู้ใดให้ธรรมทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้นิพพานแก่คนทั้งหลาย”