คลื่นเสียงสวดมนต์-เสียงธรรม ทางลัดสู่การบรรลุธรรม
การฟังธรรมอย่างสม่ำเสมอเป็นมงคลอย่างยิ่ง
การฟังธรรมอย่างสม่ำเสมอ พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงไว้ว่า..เป็นมงคลอย่างยิ่ง ดังในพระบาลีที่ได้ตรัสไว้ว่า.. กาเลนะ ธัมมัสสวนัง เอตัมมัง กลมุตตมัง ” การฟังธรรมตามกาล ตามเวลา เป็นมงคลอย่างยิ่ง “
เพราะการฟังธรรมสามารถทำให้ผู้ฟังบรรลุธรรมได้
ดังในสมัยพุทธกาลที่มีพระพุทธเจ้าเป็นผู้ทรงแสดงธรรม ในแต่ละครั้งที่ทรงแสดง จะมีผู้ที่ฟังธรรมได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคล ตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปจนถึงพระอรหันต์ เป็นจำนวนมาก
เหตุที่ทำให้ปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นมาได้ ก็เนื่องจากผุ้แสดงธรรมคือพระบรมศาสดา เป็นผู้รู้ผู้เห็นจริง
สิ่งที่ทรงแสดงก็ล้วนแต่เป็นความจริงล้วนๆ ผู้ฟังก็เป็นผู้ที่ทรงศีลทรงธรรม เป็นผู้รักษาศีล มีสมาธิ เป็นนักบวช มีจิตใจตั้งมั่น เวลาฟังธรรมก็ฟังด้วยความตั้งใจ ฟังด้วยความจริงใจ ใจจะจดจ่อรับกระแสธรรมที่มาสัมผัสกับใจ โดยไม่ปล่อยให้ใจส่ายไปส่ายมา สู่เรื่องราวต่างๆ เมื่อฟังธรรมในลักษณะนั้น มีทั้งศีลทั้งสมาธิเป็นเครื่องรองรับ การบรรลุธรรมจึงเป็นไปได้อย่างง่ายดาย
“การฟังธรรม” เป็นบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ หมวดภาวนามัย
ได้แก่ การฟังธรรม การแสดงธรรม การเจริญภาวนา และทิฏฐุชุกรรม เป็นบุญสำเร็จด้วยการภาวนา การฟังธรรมเป็นการอบรมเจริญปัญญา เพราะเมื่อบุคคลฟังธรรมเข้าใจแล้วจึงอบรมเจริญสมถและวิปัสสนาได้ เมื่อไม่ฟังจะอบรมเจริญ ภาวนาไม่ได้ บุญสำเร็จจากการฟังธรรมเป็นบุญใหญ่อานิสงส์สูงยิ่ง เพราะทำให้เกิดปัญญา เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเป็นสัมมาทิฏฐิ ทำให้ตรัสรู้เป็นอริยบุคคลได้
พรอันประเสริฐ ถ้อยธรรมคำคาถาอันดีงามแห่งคลื่นมนตรา
เสียงสวดมนต์
เซลล์ อะตอม น้ำทั้งหมดในร่างกายจะซึมซับ จะได้รับ จะจดจำ คลื่นมนตราเสียงสวดมนต์เป็นคลื่นเสียงแห่งบุญ ความดีงาม แสงสว่าง คือคลื่นแห่งการเยียวยา คลื่นเสียงมนตราเป็นคลื่นที่มีความสม่ำเสมอ จะเข้าไปกระตุ้นร่างกายให้เกิดการเยียวยา เมื่อหูได้ยินเสียงคลื่นมนตรา ก็จะส่งสัญญาณต่อไปยังศูนย์การได้ยินที่อยู่บริเวณสมองกลีบขมับ ก่อนส่งไปบริเวณก้านสมอง ซึ่งเมื่อได้รับคลื่นเสียงช้าๆ สม่ำเสมอประมาณ 15 นาที ก็จะหลั่งสารสื่อประสาทที่มีประโยชน์มากมาย