การบูชา“พระอุปคุต” เพื่อความสำเร็จในชีวิต และความร่ำรวย

“ผู้ใด ได้ใส่บาตรให้แก่ “พระอุปคุต” หรือบูชาท่านอย่างสม่ำเสมอ ก็จะพบกับชีวิตที่ประสบความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยได้อย่างรวดเร็ว” การบูชา “พระอุปคุต” เพื่อความสำเร็จในชีวิต และความร่ำรวย เพราะความเชื่อดังกล่าวจึงเป็นที่มาของพิธีการตักบาตรและการบูชา ซึ่งเป็นความเชื่อมายาวนานว่า “เป็นบุญใหญ่” จะทำให้พบกับความสำเร็จและความร่ำรวยนั้นจึงเป็นเสมือนเคล็ดลับ ชนิดที่พลิกชีวิตได้เพียงแค่ข้ามวัน เลยทีเดียว! หลายท่านคงสงสัยว่า พระอุปคุต ท่านคือใคร หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้จัก หรือไม่เข้าใจ ว่าทำไมเมื่อตักบาตรแด่ท่าน หรือบูชาท่านจึงจะพบกับความสำเร็จและร่ำรวย จึงขอนำตำนานของท่านมาให้พิจารณากัน ตามความเชื่อในทางพุทธศาสนา ต่างศรัทธาต่อพิธีการทำบุญวันพระใหญ่ในคืนวันขึ้น 15 ค่ำซึ่งตรงกับวันพุธ อันจะมีสิ่งมหัศจรรย์บังเกิด นั่นก็คือ พระอุปคุต ท่านออกมาบิณฑบาตโปรดสัตว์ หลังจากบำเพ็ญธรรมเข้าฌานสมาบัติเสวยวิมุตติสุข ณ โลกใต้สมุทร ภายในปราสาทแก้วที่เนรมิตขึ้น เหนือรัตนะบัลลังก์ ในค่ำคืนนั้น ท่านจะจำแลงแปลงกายเป็นเณร ออกจากสมาบัติ ขึ้นมาบิณฑบาตบนโลกมนุษย์โปรดสัตว์ผู้ทุกข์ยาก จึงนำมาซึ่งความเชื่อในเรื่องนี้จนเกิดเป็นประเพณี “ตักบาตรเที่ยงคืน” อันเป็นพิธีที่ถือปฏิบัติมาหลายร้อยปี ตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศและในประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนา ดังเช่น ในจังหวัดเชียงใหม่ ของประเทศไทย ในวันเวลาดังกล่าว จะมีผู้คนจำนวนหลายพันคนจะมารวมตัวกันที่วัดอุปคุต เริ่มจากบริเวณสองข้างถนนเชิงสะพานนวรัตน์ ไล่ไปเป็นแถวยาวเหยียด เพื่อที่จะทำการตักบาตรพระหลายพันรูปซึ่งนิมนต์มาจากท้องที่ต่างๆ ทั้งในเมืองและนอกเมือง เมื่อเข้าสู่วันใหม่คือเวลา 00.00 น. ก็จะถึงเวลาอันเป็นมงคลฤกษ์ ผู้ศรัทธาในเนื้อนาบุญนับพันจะร่วมกันตักบาตรโดยพร้อมเพียงกัน สร้างความอิ่มอกอิ่มใจเพราะชื่อว่า การตักบาตรในค่ำคืนกับพระสงฆ์ที่สมมติว่า เป็นพระอุปคุตนี้ หากใครได้ตักบาตรและอธิษฐานขอพรสิ่งใดไว้ ก็จะสำเร็จผลได้ง่ายว่าการอธิษฐานในเวลาปรกติ ในอดีตกาลนั้น กล่าวกันว่า ผู้ใดก็ตามที่สามารถใส่บาตรแด่พระอุปคุตได้นั้น จึงต้องเป็นผู้ที่กระทำกรรมดีมามากมาย หรือเป็นผู้ทุกข์ทนและร้อนใจ ซึ่งพระอุปคุตต้องการโปรดสัตว์ โดยในปัจจุบันนี้ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวว่า นี่เป็นการใช้ศรัทธาในทางพระพุทธศาสนา จูงใจให้ผู้คนทำทานโดยใช้ความศรัทธาในการใส่บาตรพระอุปคุตเป็นที่ตั้ง แต่ความจริงแล้ว แม้ไม่ใช่เป็นการใส่บาตรแด่พระอุปคุต แต่เป็นการใส่บาตรธรรมดาที่ปฏิบัติได้ในทุกเช้าตรู่ รวมถึงทำทานทั่วๆ ไป ก็ทำให้อุปสรรค ปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิตได้ลดน้อยถอดถอยลงไป เพราะนี่คือ การทำบุญ กระทำกรรมดี เพื่ออุทิศบุญกุศล แด่มีพระคุณที่ล่วงลับ และเพื่อนำอานิสงส์บุญนั้นไปขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร ยิ่งเสริมด้วยพลังบุญเพื่อเดินบันไดขั้นที่สองแห่งการรักษาศีล และสู่บันไดขั้นที่สาม คือ เจริญภาวนา ก็จะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตนำไปสู่ความประสบความสำเร็จได้ทุกประการ ด้วยภูมิปัญญาจากศรัทธาของบรรพบุรุษ ที่มีมายาวนาน จึงได้มีการสร้างเคล็ดแห่งการบูชาประอุปคุตขึ้นมาโดยไม่ต้องรอฤกษ์ รอวันเวลา ผ่านการสร้างองค์พระบูชาที่เรียกว่า “พระอุปคุต” หรือที่เรียกกันในบางพื้นที่ว่า “พระบัวเข็ม” การตั้งบูชา โดยมีวิธีการบูชา ด้วยการอัญเชิญพระอุปคุต ตั้งบนฐานรองรับ อยู่กลางภาชนะใส่น้ำ อันเป็นการจำลองในการที่ท่านจำพรรษาอยู่ในมหาสมุทร พร้อมด้วยดอกมะลิหอมลอยอยู่ เพื่อเป็นเครื่องสักการบูชา แต่ที่สำคัญ ในตำแหน่งการจัดวางขององค์ท่าน ต้องตั้งต่ำกว่าพระพุทธรูป เพราะพระอุปคุตท่านเป็นพระอรหันต์ ผู้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า เคล็ดวิธีบูชาพระอุปคุต 1. ถวายน้ำสะอาดวันละ 1 แก้วที่สะอาด จุดธูปหอม 3 ดอก (หรือจะธูปไฟฟ้าสมัยใหม่ก็ได้) 2. ดอกมะลิหรือดอกบัวขาว ลอยอยู่ในภาชนะที่ใส่น้ำ 3. ถวายข้าว, กล้วย, ขนม ทุกเช้า หรือในทุกวันพระ แต่ห้ามถวายประเภทสิ่งมีชีวิต เพราะท่านไม่โปรดการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ซึ่งเป็นกรรมที่ผูกพัน 4. เวลาจัดงานหรือมีพิธีการใด ให้จัดโต๊ะพิเศษ อันเชิญพระอุปคุตมาตั้งไว้ พร้อมบูชาเครื่องสักการะตลอดงาน ระวังอย่าให้ไฟที่ตะบูชาและในงานดับขณะกำลังทำพิธี คำบูชา เพื่อขอโชคลาภจากพระอุปคุต เริ่มต้นด้วยการจุดธูปเทียนบูชา พร้อมกับดอกไม้หอม เครื่องหอมน้ำหอมต่างๆ เทหยดใส่ในขันน้ำมนต์ ณ ที่บูชาพระในบ้าน ในร้านค้า หรืออาคารสำนักงาน จากนั้นอธิษฐาน ขอให้กลิ่นควันธูปเทียน โดนลมพัดไปทางไหน ของให้ดลใจผู้คนเข้ามาอุดหนุนตลอด ขอให้ดำเนินกิจการด้วยความราบรื่น ร่ำรวย และมีความสำเร็จสมปรารถนาทุกประการ เมื่ออธิษฐานจุดธูปเทียนบูชาแล้ว ให้สวด นะโม 1 จบ และสวดคำบูชาขอลาภพระอุปคุต 1 จบ (หากจะให้เกิดผลเร็วให้สวด 5 จบทุกเช้าเย็นและเวลาที่ว่าง) ดังต่อไปนี้ -ตั้งนะโม 3 จบ -คำบูชาขอลาภพระอุปคุต มหาอุปคุตโต จะมหาลาโภ พุทโธลาภัง สัพเพชะนา พะหูชะนา ราชาปุริโส อิถีโยมานัง นะโมโจรา เมตตาจิตตัง เอหิจิตติจิตตัง ปิยังมะมะ สะเทวะกัง สะพรหมมะกัง มะนุสสานัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเม ฯ เอหิจิตติ จิตตังพันธะนัง อุปะคุตะ จะมหาเถโร พุทธะสาวะกะ อานุภาเวนะ มาระวิชะยะ นิระภะยะ เตชะปุญณะตา จะเทวะตานัมปิ มะนุสสานันปิ เอหิจิตตัง ปิยังมะมะ อิมังกายะ พันธะนัง อะทิถามิ ปะอัยยิสสุตัง อุปัจสะอิ ฯ (ในบางแห่งใช้คาถาบทนี้ “ อุปะคุตโต จะ มะหาเถโร สัมพุทเธนะ วิยากะโต มารัญจะ มาระพะลัญจะ โส อิทานิ มะหาเถโร นะมัสสิตะวา ปะติฎฐิโต อะหัง วันทามิ อิทาเนวะ อุปะคุตตัง จะ มาหาเถรัง ยัง ยัง อุปัททะวัง ชาตัง วิธัง เสติ อะเสสะโต มะหาลาภัง ภะวันตุเม ฯ “)

สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ
ก า ร ใ ห้ ธ ร ร ม เ ป็ น ท า น
ช น ะ ก า ร ใ ห้ ทั้ ง ป ว ง

พระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้ให้ข้าวน้ำ ถือว่าให้กำลัง
ผู้ให้เสื้อผ้าถือว่าให้ความสวยงาม
แต่ ผู้ให้ธรรมะเป็นทานถือว่าเป็นผู้ให้ความเป็นคน
ให้สติปัญญา ให้ความพ้นทุกข์ ให้ทางแห่งธรรม

” ธรรมทาน ” เป็นบุญใหญ่บารมีมาก อานิสงส์สูงยิ่งเพราะเป็นการให้ปัญญา
ให้สติ ให้แสงสว่าง ให้ความสุข สงบ ชุ่มเย็นอันแท้จริงแก่คนและสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ให้สุขกายใจกันถ้วนทั่ว ด้วยพลังบุญแห่งภาวนา สมาธิ การแผ่เมตตา อโหสิกรรม
เทพเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างสรรเสริญยินดีร่วมอนุโมทนาในบุญ
แห่งการสวดมนต์ภาวนาสมาธินั้น

ด้วยเหตุนี้..บุญแห่ง ” ธรรมทาน “

จึงเป็นทานที่บารมีสูงผู้สร้างได้บุญมากอานิสงส์แรง
เพราะเป็นบุญแห่งปัญญา ที่ให้แก่ตนเองและผู้รับได้ครบทุกอย่าง
เป็นการให้ที่ถึงแก่นธรรมอย่างแท้จริง ผู้สร้างบุญจักได้รับพลานุภาพแห่งบุญ
อยู่ทุกขณะ ดั่งเงาตามตัวตามติดจิตวิญญาน กระแสแห่งบุญนั้นจะตามส่งผล
บุญจะเกิดขึ้นทุกครั้ง เมื่อผู้รับ  สวดมนต์ทำสมาธิ มหาอานิสงส์บารมี
เกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อผู้รับ  ขออโหสิกรรม  ให้อภัยทานให้อโหสิกรรม
แผ่เมตตา  อุทิศบุญแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย บุ ญ เ กิ ด ขึ้ น ทุ ก ค รั้ ง
ที่ผู้รับเกิดปิติ เกิดความสงบแห่งกาย ใจ จิต  เกิดมหาสติ เกิดปัญญา
มหาบุญบารมีเกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อผู้รับมีความสุข และแบ่งความสุขกาย
สุขใจแห่งบุญนั้นๆต่อๆไป

 เมื่อมีหนึ่งคนสวดมนต์ แผ่เมตตา ทำสมาธิ เราผู้สร้างทานก็ได้รับมหาอานิสงส์แห่งบุญนั้นๆด้วย
ผู้รับพันคน บุญเข้ามาหาเราพันทาง หมื่นทาง แสนทาง กระแสบุญถูกส่ง-รับ แผ่ขยายต่อๆออกไป
มิสิ้นมิสุด อำนาจบุญ พลังแห่งความดีงาม สว่าง สงบ ชุ่มเย็น แผ่ไพศาลไปทั่วอนันตจักรวาล
กระแสบุญเกิดตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้เอง ” การสร้างธรรมทาน แจกหนังสือสวดมนต์ “ จึงเป็นบุญใหญ่
มีอานิสงส์แห่งบุญบารมีสูงยิ่ง เปรียบดั่งเราปลูกต้นบุญ อำนาจแห่งบุญก็เติบโตแผ่ขยาย
แตกหน่องอกงาม ออกดอก ออกผล แพร่ขยายบุญออกไปตลอดกาล การสร้างหนังสือสวดมนต์แจก
เป็นทานจึงชื่อว่าเป็นการปลูกต้นบุญชีวิต ต้นบุญแห่งธรรม

 มหาบุญกุศลนั้นจักส่งผลให้เจริญศรี เจริญสุขทั้งทางโลกและทางธรรม มีสติปัญญาเฉียบคม พร้อมด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ อายุ วรรณะ สุขะ พละ กายผ่องแผ้วจิตผ่องใส เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม เปิดทางสว่างให้ชีวิต เคราะห์ร้ายอุปสรรคอันตรายสิ้นสูญ เทพเทวาเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สรรพสัตว์ทั้งหลายเมตตารักใคร่ ปกปักคุ้มครองรักษา ช่วยเหลือให้ผ่านพ้นเคราะห์ อุปสรรค พบแต่สิ่งดีงาม ประสบความสำเร็จทุกสิ่งอันเป็นบุญ และยังส่งผลถึงบิดามารดา ครอบครัว สามีภรรยา บุตรหลาน ญาติเชื้อวงศ์วาน ให้พบแต่ความรุ่งเรืองมีศีลธรรม เมื่อละสังขารไปก็จักได้อยู่ในภพภูมิที่สูง

” ธรรมทาน “ เป็นการสร้างบุญที่เจ้ากรรมนายเวรพอใจและต้องการมากที่สุดบุญหนึ่ง

โดยเฉพาะ เจ้ากรรมนายเวรที่เป็นดวงจิตวิญญาน เพราะทุกครั้งที่เราอุทิศอานิสงส์แห่งการสร้างบุญด้วยธรรมทานนี้ไปถึงเขา ที่เหลือเพียงดวงจิต ไม่มีร่างกาย กระแสบุญแห่งปัญญานี้จะนำเขาไปสู่ภพภูมิที่ดี และบุญกุศลนี้ จะนำมาซึ่งการให้อโหสิกรรมได้โดยง่าย เร็วที่สุด อันเป็นหนทางหนึ่งที่ระงับเวรได้ แต่กรรมเราก็ยังต้องรับ แต่ในบางกรรมจะเบาบางลดกำลังลงจนแทบทำอะไรเราไม่ได้เลย ด้วยบุญที่เราทำนั้นเกิดผลที่แรงกว่า

 ผูัให้ธรรมทาน จึงชื่อว่าให้ปัญญา ให้แสงสว่าง ให้ความพ้นทุกข์ ส่งผลให้มีสติปัญญาเห็นแจ้ง ในมรรคผล
เข้าถึงสุขสูงสุดในนิพพาน

 ผู้ใดให้ธรรมเป็นทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้นิพพานแก่คนทั้งหลาย

 ” ธรรมทาน ” นี้ถือว่าเป็นอภัยทานได้ หากเราวางใจ ด้วยการให้ธรรมทานนี้เป็นการให้เพื่อ
“ให้อโหสิกรรม” และ ” ขออโหสิกรรม ” ไปพร้อมๆ กัน

 ออกแบบแผ่นพับให้เปิดเรียง
ตามลำดับเลขหน้า
บทสวดมนต์เรียงลำดับถูกต้อง
เปิดพลิกหน้าได้สะดวก

  ขนาดแผ่นพับ 6 x 3 นิ้ว
เมื่อกางออกขนาด 6 x 18 นิ้ว
มี 16 หน้า
เรียงลำดับการสวดมนต์ประจำวัน
ครบสมบูรณ์ ดังนี้

๑. บทบูชาพระรัตนตรัย
๒. บทนมัสการพระรัตนตรัย
๓. บทชุมนุมเทวดา
๔. บทอารธนาศีล
๕. บทนมัสการพระพุทธเจ้า
๖. ไตรสรณคมน์
๗. บทสมาทานศีล 5
๘. บทถวายพร
๙. บทชัยมงคลคาถา

๑๐. บทชัยปริตร (มหากาฯ)
๑๑. บทชินบัญชร
๑๒. บทอิติปิโส
๑๓. บทแผ่เมตตาตนเอง
๑๔. บทแผ่เมตตาสรรพสัตว์
๑๕. บทแผ่นส่วนบุญกุศล
๑๖. บทให้อโหสิกรรม ขออโหสิกรรม ถอดถอนสาบาน
๑๗. บทอุทิศบุญแผ่เมตตาครอบจักรวาล

ไม่มีพิมพ์ชื่อเจ้าภาพ

เนื่องจากใช้พื้นที่เพิ่มบทสวดขออโหสิกรรมถอดถอนคำสาบาน และบทแผ่เมตตาครอบจักรวาล ซึ่งเกิดประโยชน์ต่อผู้ให้และรับ
ได้อานิสงส์สูงมาก

ธรรมทาน บทสวดมนต์ สีสวย