หลายคนอาจจะสงสัยว่าได้ไหว้พระสวดมนต์มาตั้งนานทำไมชีวิตไม่ดีขึ้นสักที การจะไหว้พระสวดมนต์และทำให้ชีวิตดีขึ้นนั้น มีหลัก 4 ข้อ คือ1.จิตต้องเป็นสมาธิขณะสวดมนต์ 2.ให้เทวดาร่วมอนุโมทนาบุญในการสวดมนต์และให้พร 3.เจ้ากรรมนายเวรยอมอโหสิกรรม 4.บุญกุศลได้ส่งผล เมื่อองค์ประกอบทั้ง 4 ข้อครบถ้วนบริบูรณ์ ชีวิตก็จะพบแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาทันตาเห็น เริ่มจากความทุกข์ค่อย ๆ หายไป ความสุขใจค่อย ๆ เกิดขึ้น จากนั้นความสุขกายสบายใจพร้อมทั้งทรัพย์สิน โชคลาภ ก็จะตามมา
องค์ประกอบหลัก 4 ข้อในการไหว้พระสวดมนต์
1. จิตต้องเป็นสมาธิขณะสวดมนต์
การสวดมนต์ภาวนาทำได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะกวาดบ้าน ถูบ้าน หรือแม้กระทั้งเปิดเสียงสวดมนต์แล้วสวดตาม ซึ่งกุศลผลบุญนั้นเกิดขึ้นแค่ชั่วขณะ แต่กำลังผลบุญยังไม่มากพอที่จะแผ่ไปให้ไพศาล ดังนั้นการสวดมนต์ภาวนาที่ได้กำลังบุญมากพอควรจะทำให้จิตเป็นสมาธิขณะสวด ซึ่งการสวดมนต์ก็คลายกับการนั่งสมาธิ ถ้าจิตสงบขณะนั่งสมาธิเพียงชั่วช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น ยังได้อานิสงส์ผลบุญมากกว่าตักบาตรถวายสังฆทาน ฉะนั้นการสวดมนต์ภาวนาขณะจิตเป็นสมาธิก็จะได้กุศลผลบุญที่มีกำลังมากกว่าเช่นกัน ขณะสวดมนต์จึงให้จดจ่ออยู่กับอักขระตัวอักษรของบทสวด ไม่วอกแวก ถ้าจิตกำลังคิดก็ให้รู้ว่าคิดแล้วก็ดึงกลับมาที่ตัวอักษรเป็นวิปัสสนา
หลายคนหลายท่านที่สวดมนต์คิดว่าเพียงแค่สวดให้จบบทแค่นั้นจะทำให้ชีวิตดีขึ้น จะได้เจอแต่สิ่งดี ๆ ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่แค่นั้น ถึงแม้ว่าจะสวด 108 จบ ก็ยังไม่ได้กุศลเท่ากับสวดเพียงจบเดียวขณะจิตเป็นสมาธิ นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่การสวดมนต์ยังไม่ทำให้เกิดผล ผู้ปฏิบัติจึงต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ปฏิบัติเป็นประจำ ดังนั้นการสวดมนต์ไม่ใช่แค่ 1 วัน 1 เดือน หรือ 1 ปี ซึ่งแต่ละคนใช้เวลาไม่เหมือนกันที่จะทำให้จิตเป็นสมาธิได้ในขณะสวดมนต์ ถ้าปฏิบัติก่อนก็ได้เปรียบก่อน เมื่อปฏิบัติไปเรื่อย ๆ จิตเราก็จะเป็นสมาธิ
2. ให้เทวดาร่วมอนุโมทนาบุญในการสวดมนต์และให้พร
ทุก ๆ ครั้งที่เราสวดมนต์ก็จะมีเทวดาสิ่งศักดิ์มาร่วมอนุโมทนาบุญ เราได้เพิ่มกำลังบุญให้ตัวเองแล้ว เรายังเพิ่มกำลังบุญให้กับเทวดาทั้งหลายอีกด้วย เมื่อท่านทั้งหลายได้รับบุญกุศลเราก็ได้บุญเพิ่มมากขึ้นและท่านก็จะประทานพรให้เราได้สมหวัง แต่ด้วยมนุษย์เหม็นสาบกิเลส เทวดาที่มาร่วนอนุโมทนาบุญกับเราจึงน้อยนัก อย่างมากก็แค่เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใกล้ตัว พรที่ได้รับจึงส่งผลน้อย เราจึงต้องทำให้ตัวเองบริสุทธิ์เป็นภาชนะที่สะอาดพร้อมที่จะรองรับสิ่งดีที่จะเข้ามาในชีวิตด้วยการสมาทานศีล 5 และอัญเชิญเทวดาทุกครั้ง เพื่อให้เทพยาดาทั่วสากลโลกมาร่วมอนุโมทนาบุญกับเรา เมื่อเทวดาที่มีบุญสัมพันธ์กับเราหรือมีกำลังบุญมาก ท่านก็จะประทานพรแก่เราให้เกิดผลได้ทันตา ดังนั้นการไหว้พระสวดมนต์ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
1. อาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด
2. ตั้งเทียนที่เชิงเทียนให้เรียบร้อย จากนั้นทำจิตให้สงบ เริ่มจากจุดเทียนทางซ้ายให้ระลึกถึงพระธรรม ทางขวาให้ระลึกถึงพระวินัย นำธูป 3 ดอก จุดไฟจากเทียน จากนั้นปักธูปดอกที่หนึ่งระลึกถึงพระปัญญาธิคุณ ดอกที่สองระลึกถึงพระบริสุทธิคุณ ดอกที่สามระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ (ถ้าไม่สะดวกจุดธูปเทียนก็ไม่เป็นไร แต่ต้องตั้งเทียนและปักธูปไว้) แล้วกราบหนึ่งพระพุทธเจ้า กราบสองพระธรรมเจ้า กราบสามพระสังฆเจ้า
3. บทบูชาพระรัตนตรัย
4. บทนมัสการพระรัตนตรัย
5. บทชุมนุมเทวดา
บทชุมนุมเทวดานี้เป็นบทที่ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าได้ไหว้พระสวดมนต์เป็นประจำจะสามารถทำให้พระพุทธรูปที่ไม่ผ่านการพุทธาภิเษกกลายเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ได้ เพราะเป็นการเชิญเทพยาดามาสถิตหรือปกปักรักษาหรือกราบไหว้พระพุทธรูปองค์นั้น ๆ และยังเป็นการเชิญเทวดามาร่วมอนุโมทนาบุญการไหว้พระสวดมนต์อีกด้วย
6. บทอารธนาศีล
7. บทนมัสการพระพุทธเจ้า
8. ไตรสรณคมน์
9. บทสมาทานศีล 5
เราต้องสมาทานศีลชำระจิตใจให้สะอาดก่อนสร้างบุญกุศลทุกครั้ง กุศลผลบุญนั้นจึงจะส่งผลได้เต็มที่ หลายท่านคิดว่าถือศีลได้ไม่ครบทุกข้อก็เลยไม่สมาทานศีล ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด เพราะการสมาทานศีลนั้น เวลาที่เรากำลังทำผิดศีลเราจะระลึกได้และรู้ตัวเองว่ากำลังทำผิดศีล เมื่อเราระลึกได้บ่อย ๆ จิตใจเราจะยกระดับสูงขึ้นทำให้เลี่ยงการทำผิดศีล และจะสามารถถือศีลได้ครบบริบูรณ์ในที่สุด
10. บทถวายพร
11. บทชัยมงคลคาถา
12. บทชัยปริตร (มหากาฯ)
13. บทชินบัญชร
14. บทอิติปิโส
15. บทแผ่เมตตาตนเอง
16. บทแผ่เมตตาสรรพสัตว์
17. บทแผ่นส่วนบุญกุศล
18. บทให้อโหสิกรรม ขออโหสิกรรม ถอดถอนสาบาน
19. บทอุทิศบุญแผ่เมตตาครอบจักรวาล
3. เจ้ากรรมนายเวรยอมอโหสิกรรม
เคยไหมเวลาไปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ไม่เคยสมหวังไม่เคยได้โชคเลย แต่ทำไมคนอื่นขอพรถึงได้ตามที่เขาปรารถนา บางคนบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์เทพต่าง ๆ แล้วชีวิตดีขึ้น แต่บางคนบูชาแล้วไม่เกิดอะไรขึ้นเลย เงินก็ไม่ได้ โชคก็ไม่มี สาเหตุมีอยู่สองอย่างคือ 1.บุญกุศลน้อย 2.เจ้ากรรมนายเวรคอยขัดขวาง ซึ่งทั้งสองสาเหตุมีวิธีแก้ไขดังต่อไปนี้
บุญกุศลน้อยก็แค่ทำบุญเป็นประจำ ไหว้พระสวดมนต์ ทำทานตามกำลังศรัทธา เมื่อได้เงินจากการทำมาหากินก็แบ่งไว้ทำบุญบางส่วน บางคนบุญไม่ยอมทำ บุญเก่าก็ไม่มี แต่ขอให้ถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจะประทานพรให้เราได้อย่างไร ดังนั้นเมื่อได้ทำบุญแล้วเราจะต้องอุทิศให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรากราบไหว้หรือที่เราไปขอพรด้วย เพื่อเชื่อมบุญให้ท่านได้เมตตาประทานพรให้เรา ถ้าที่บ้านบูชาพระพิฆเนศ พญาครุฑ พญานาคาราช หรือนางกวักกุมารทอง แล้วอุทิศบุญให้เสมอ ไม่ว่าจะทำบุญทำทาน ไหว้สวดมนต์ หรือเจริญภาวนาปฏิบัติกรรมฐาน เมื่อได้ขอพรก็จะทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามที่หวัง แต่ไม่ว่าจะยังไงพรจะเกิดผลไม่ได้ถ้าเจ้ากรรมนายเวรยังคอยขัดขวาง
เจ้ากรรมนายเวรยังเป็นอีกสาเหตุที่คอยขัดขวางการเจริญรุ่งเรืองไม่ให้ชีวิตเราดีขึ้น บางคนจึงสงสัยว่าที่ผ่านมาทำบุญใหญ่ตลอด เป็นเจ้าภาพหล่อพระ สร้างโบสถ์วิหาร แต่ทำไมชีวิตยังไม่ดีขึ้นสักที ก็เพราะเจ้ากรรมนายเวรไม่ยอมอโหสิกรรมให้ นอกจากจะทำบุญให้แล้วยังต้องกรวดน้ำให้ถูกต้อง เพราะบางทีเราทำบุญใหญ่ แต่กำลังบุญเราส่งไปไม่ถึงเจ้ากรรมนายเวร บุญที่ได้ทำก็จะเป็นเสบียงบุญรอโอกาสที่จะส่งผลในภายภาคหน้า ดังนั้นจึงต้องส่งผลบุญให้เจ้ากรรมนายเวรโดยตรงด้วยการกรวดน้ำให้ถูกวิธี การกรวดน้ำส่งผลบุญเราต้องส่งผ่านแม่พระคงคา แม่พระธรณี ให้ท่านเป็นพยานในบุญที่เราสร้าง ด้วยการกรวดน้ำลงดิน นอกจากนั้นให้เชื่อมบุญกับผู้มีวาสนาบารมีสูงอย่างพระโพธิสัตว์ พระอริยสงฆ์ ครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่เรานับถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ท่านได้บำเพ็ญบารมีมามากเพื่อที่จะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต บุญบารมีท่านจึงมีกำลังสูงซึ่งท่านยังเมตตาโปรดสัตว์ให้พ้นทุกข์อีกด้วย ดังนั้นจึงต้องเชื่อมบุญให้ท่านช่วยแผ่เมตตาไปให้กับเจ้ากรรมนายเวรของเรา เมื่อได้กรวดน้ำหลังจากไหว้พระสวดมนต์หรือทำบุญทุกครั้งจนเจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้ จากนั้นผลบุญทั้งหมดจึงจะส่งผล (บทกรวดน้ำอยู่หน้าสุดท้าย)
4. บุญกุศลได้ส่งผล
การไหว้พระสวดมนต์เป็นการทำให้ผลบุญส่งผลเร็วขึ้น แต่การที่ผลบุญจะส่งผลนั้นก็ขึ้นอยู่กับกรรมดี และบุญกุศลที่ได้ทำในอดีตและปัจจุบัน ดังนั้นผลบุญของแต่ละคนที่ได้รับจึงไม่เหมือนกัน ถ้าอยากสุขสบายในภายภาคหน้าก็ให้ทำบุญทำทานเยอะ ๆ ซึ่งก็แล้วแต่อานิสงส์ของบุญแต่ละอย่างที่ได้ทำ ผลบุญจะส่งผลแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับการจัดสรรของกรรมดีกรรมชั่วแต่ละคน บางคนอาจจะไม่ได้ทรัพย์สินเงินทองแต่ได้ความสุขทางใจ ปราศจากโรคภัย บางคนอาจจะได้มิตรภาพบริวารที่ดี ปัญหาต่าง ๆ คลี่คลาย ดังนั้นจงอย่าน้อยใจในโชคชะตา อย่าโลภในผลบุญที่ได้จนเกินกำลังบุญตัวเอง คิดเสียว่าเราโชคดีแค่ไหนที่ได้เกิดในพุทธศาสนาที่มีคำสอนให้เราลดทำกรรมชั่ว ให้สร้างแต่กรรมดี
สุดท้ายนี้จากปัจจัยทั้ง 4 ข้อ ลองกลับไปทบทวนดูว่าเป็นเพราะปัจจัยข้อใดที่ทำให้การไหว้พระสวดมนต์ของเรายังไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น การทำให้จิตเป็นสมาธิขณะสวดมนต์ว่ายากแล้ว แต่การทำให้เจ้ากรรมนายเวรยอมอโหสิกรรมยากยิ่งกว่า จึงขอเป็นกำลังให้ทุกท่านปฏิบัติต่อไป เมื่อน้ำหยดบนหินทุกวันหินมันยังกร่อน ถ้าเราอุทิศบุญให้เขาทุกวันทำไมเขาจะไม่ยอมให้อภัยเรา
บทกรวดน้ำ
อิมินา ปุญญะกัมเมนะ
ขออำนาจบุญบารมีแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และด้วยกุศลผลบุญแห่งข้าพเจ้า………(แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิด ถ้าเปลี่ยนชื่อแจ้งชื่อเก่าทุกชื่อ)
ได้ไหว้พระสวดมนต์เจริญภาวนาในค่ำคืนนี้ ขอฝากกุศลผลบุญผ่านน้ำอุทิศนี้ไปกับแม่พระธรณี แม่พระคงคา น้อมอุทิศให้กับ ……….(พระคู่บ้านคู่เมือง พระโพธิสัตว์ พระอริยสงฆ์ ครูบาอาจารย์ เช่น พระแก้วมรกต หลวงพ่อโสธร พระพุทธชินราช หลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด สมเด็จโต หลวงปู่มั่น ครูบาเจ้าศรีวิชัย หลวงปู่ดู่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
ขอได้โปรดเมตตาแผ่บุญบารมีมาถึงข้าพเจ้า และอุทิศบุญบารมีทั้งหมดนี้ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระมหากษัตริย์ทุก ๆ พระองค์ และอุทิศส่วนกุศลให้แก่ บิดามารดา ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ และเทวดาใกล้ตัวของข้าพเจ้า ตลอดทั้ง ……….(สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่กราบไหว้บูชา เช่น พระพิฆเนศ พระนารายณ์ ท้าวมหาพรหม พระอินทร์ ท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ท้าวเวสสุวรรณ พญาครุฑ พญานาค พญายมราช นายนิรยบาล ยักย์ พระพิรุณ พระภูมิเจ้าที่ แม่นางกวัก กุมารทอง)
เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่ เจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าที่มาถึงตัวแล้วและกำลังจะมาถึงตัว ขออานิสงค์ผลบุญดังกล่าวนี้โปรดกลายเป็นโภคทรัพย์ ให้ท่านทั้งหลายที่ได้ทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ได้สุข ขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป และโปรดช่วยเปิดทางให้ข้าพเจ้าผ่านพ้นปัญหาที่ข้าพเจ้ากำลังมีความทุกข์อยู่ ณ ตอนนี้ ให้หมด ให้สิ้น อย่าหลงเหลือตั้งแต่บัดนี้ เวลานี้เป็นต้นไป
ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้าอุทิศให้ไปนี้ จงเป็นอุปนิสัยปัจจัยให้ถึงพระนิพพานในปัจจุบัน และอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นเทอญ
พุทธัง อะนันตัง ธัมมัง จักกะวาลัง สังฆัง นิพพานะปัจจะโย โหนตุ
ธรรมทาน
แผ่นพับสวดมนต์สีสวย
บุญประณีต บารมีมาก อานิสงส์สูง
หนังสือธรรม สร้างบุญ สร้างสุข สร้างความดี
ให้ปัญญา ให้ความรู้ ให้ความสุข สงบ พบพระธรรม
สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ
ก า ร ใ ห้ ธ ร ร ม เ ป็ น ท า น
ช น ะ ก า ร ใ ห้ ทั้ ง ป ว ง
พระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้ให้ข้าวน้ำ ถือว่าให้กำลัง
ผู้ให้เสื้อผ้าถือว่าให้ความสวยงาม
แต่ ผู้ให้ธรรมะเป็นทานถือว่าเป็นผู้ให้ความเป็นคน
ให้สติปัญญา ให้ความพ้นทุกข์ ให้ทางแห่งธรรม
” ธรรมทาน ” เป็นบุญใหญ่บารมีมาก อานิสงส์สูงยิ่งเพราะเป็นการให้ปัญญา
ให้สติ ให้แสงสว่าง ให้ความสุข สงบ ชุ่มเย็นอันแท้จริงแก่คนและสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ให้สุขกายใจกันถ้วนทั่ว ด้วยพลังบุญแห่งภาวนา สมาธิ การแผ่เมตตา อโหสิกรรม
เทพเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างสรรเสริญยินดีร่วมอนุโมทนาในบุญ
แห่งการสวดมนต์ภาวนาสมาธินั้น
ด้วยเหตุนี้..บุญแห่ง ” ธรรมทาน “
จึงเป็นทานที่บารมีสูงผู้สร้างได้บุญมากอานิสงส์แรง
เพราะเป็นบุญแห่งปัญญา ที่ให้แก่ตนเองและผู้รับได้ครบทุกอย่าง
เป็นการให้ที่ถึงแก่นธรรมอย่างแท้จริง ผู้สร้างบุญจักได้รับพลานุภาพแห่งบุญ
อยู่ทุกขณะ ดั่งเงาตามตัวตามติดจิตวิญญาน กระแสแห่งบุญนั้นจะตามส่งผล
บุญจะเกิดขึ้นทุกครั้ง เมื่อผู้รับ สวดมนต์ทำสมาธิ มหาอานิสงส์บารมี
เกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อผู้รับ ขออโหสิกรรม ให้อภัยทานให้อโหสิกรรม
แผ่เมตตา อุทิศบุญแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย บุ ญ เ กิ ด ขึ้ น ทุ ก ค รั้ ง
ที่ผู้รับเกิดปิติ เกิดความสงบแห่งกาย ใจ จิต เกิดมหาสติ เกิดปัญญา
มหาบุญบารมีเกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อผู้รับมีความสุข และแบ่งความสุขกาย
สุขใจแห่งบุญนั้นๆต่อๆไป
เมื่อมีหนึ่งคนสวดมนต์ แผ่เมตตา ทำสมาธิ เราผู้สร้างทานก็ได้รับมหาอานิสงส์แห่งบุญนั้นๆด้วย
ผู้รับพันคน บุญเข้ามาหาเราพันทาง หมื่นทาง แสนทาง กระแสบุญถูกส่ง-รับ แผ่ขยายต่อๆออกไป
มิสิ้นมิสุด อำนาจบุญ พลังแห่งความดีงาม สว่าง สงบ ชุ่มเย็น แผ่ไพศาลไปทั่วอนันตจักรวาล
กระแสบุญเกิดตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้เอง ” การสร้างธรรมทาน แจกหนังสือสวดมนต์ “ จึงเป็นบุญใหญ่
มีอานิสงส์แห่งบุญบารมีสูงยิ่ง เปรียบดั่งเราปลูกต้นบุญ อำนาจแห่งบุญก็เติบโตแผ่ขยาย
แตกหน่องอกงาม ออกดอก ออกผล แพร่ขยายบุญออกไปตลอดกาล การสร้างหนังสือสวดมนต์แจก
เป็นทานจึงชื่อว่าเป็นการปลูกต้นบุญชีวิต ต้นบุญแห่งธรรม
มหาบุญกุศลนั้นจักส่งผลให้เจริญศรี เจริญสุขทั้งทางโลกและทางธรรม มีสติปัญญาเฉียบคม พร้อมด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ อายุ วรรณะ สุขะ พละ กายผ่องแผ้วจิตผ่องใส เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม เปิดทางสว่างให้ชีวิต เคราะห์ร้ายอุปสรรคอันตรายสิ้นสูญ เทพเทวาเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สรรพสัตว์ทั้งหลายเมตตารักใคร่ ปกปักคุ้มครองรักษา ช่วยเหลือให้ผ่านพ้นเคราะห์ อุปสรรค พบแต่สิ่งดีงาม ประสบความสำเร็จทุกสิ่งอันเป็นบุญ และยังส่งผลถึงบิดามารดา ครอบครัว สามีภรรยา บุตรหลาน ญาติเชื้อวงศ์วาน ให้พบแต่ความรุ่งเรืองมีศีลธรรม เมื่อละสังขารไปก็จักได้อยู่ในภพภูมิที่สูง
” ธรรมทาน “ เป็นการสร้างบุญที่เจ้ากรรมนายเวรพอใจและต้องการมากที่สุดบุญหนึ่ง
โดยเฉพาะ เจ้ากรรมนายเวรที่เป็นดวงจิตวิญญาน เพราะทุกครั้งที่เราอุทิศอานิสงส์แห่งการสร้างบุญด้วยธรรมทานนี้ไปถึงเขา ที่เหลือเพียงดวงจิต ไม่มีร่างกาย กระแสบุญแห่งปัญญานี้จะนำเขาไปสู่ภพภูมิที่ดี และบุญกุศลนี้ จะนำมาซึ่งการให้อโหสิกรรมได้โดยง่าย เร็วที่สุด อันเป็นหนทางหนึ่งที่ระงับเวรได้ แต่กรรมเราก็ยังต้องรับ แต่ในบางกรรมจะเบาบางลดกำลังลงจนแทบทำอะไรเราไม่ได้เลย ด้วยบุญที่เราทำนั้นเกิดผลที่แรงกว่า
ผูัให้ธรรมทาน จึงชื่อว่าให้ปัญญา ให้แสงสว่าง ให้ความพ้นทุกข์ ส่งผลให้มีสติปัญญาเห็นแจ้ง ในมรรคผล
เข้าถึงสุขสูงสุดในนิพพาน
ผู้ใดให้ธรรมเป็นทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้นิพพานแก่คนทั้งหลาย
” ธรรมทาน ” นี้ถือว่าเป็นอภัยทานได้ หากเราวางใจ ด้วยการให้ธรรมทานนี้เป็นการให้เพื่อ
“ให้อโหสิกรรม” และ ” ขออโหสิกรรม ” ไปพร้อมๆ กัน
ออกแบบแผ่นพับให้เปิดเรียง
ตามลำดับเลขหน้า
บทสวดมนต์เรียงลำดับถูกต้อง
เปิดพลิกหน้าได้สะดวก
ขนาดแผ่นพับ 6 x 3 นิ้ว
เมื่อกางออกขนาด 6 x 18 นิ้ว
มี 16 หน้า
เรียงลำดับการสวดมนต์ประจำวัน
ครบสมบูรณ์ ดังนี้
๑. บทบูชาพระรัตนตรัย
๒. บทนมัสการพระรัตนตรัย
๓. บทชุมนุมเทวดา
๔. บทอารธนาศีล
๕. บทนมัสการพระพุทธเจ้า
๖. ไตรสรณคมน์
๗. บทสมาทานศีล 5
๘. บทถวายพร
๙. บทชัยมงคลคาถา
๑๐. บทชัยปริตร (มหากาฯ)
๑๑. บทชินบัญชร
๑๒. บทอิติปิโส
๑๓. บทแผ่เมตตาตนเอง
๑๔. บทแผ่เมตตาสรรพสัตว์
๑๕. บทแผ่นส่วนบุญกุศล
๑๖. บทให้อโหสิกรรม ขออโหสิกรรม ถอดถอนสาบาน
๑๗. บทอุทิศบุญแผ่เมตตาครอบจักรวาล
ไม่มีพิมพ์ชื่อเจ้าภาพ
เนื่องจากใช้พื้นที่เพิ่มบทสวดขออโหสิกรรมถอดถอนคำสาบาน และบทแผ่เมตตาครอบจักรวาล ซึ่งเกิดประโยชน์ต่อผู้ให้และรับ
ได้อานิสงส์สูงมาก