การสวดมนต์ปลุกญาณเกิดฌาณ อานิงสงส์แรงบุญของการสวดมนต์พลิกได้ทุกวิกฤตชีวิต

การสวดมนต์ภาวนาเป็นการสร้างบุญใหญ่ มีอานิสงส์สูง เพราะจิตจะสงบตั้งอยู่ได้นาน ทำให้เกิดญาน รวมทั้งสรรพวิญญาน สิ่งที่มองไม่เห็นทั้งหลายจะได้มาร่วมนุโมทนาบุญ และเป็นการแผ่เมตตา อุทิศบุญส่งไมตรจิตแก่ผู้อื่นและสรรพสิ่ง สรรพสัตว์ทั้งหลาย อีกทั้งยังเป็น ก า ร ร ว ม จิ ต ใ ห้ ส ง บ นิ่ ง ก่ อ น ทำ ส ม า ธิ วิ ปั ส น า ต่อไป

สวดมนต์ ปลุกญาน เกิดญาน คนสวดมนต์บ่อยๆ หากทำจนเป็นนิสัย รับรองได้ว่า ชีวิตจะไม่มีทางล้มเหลว เขาจะอยู่ถูกที่ถูกเวลา จะเจอคนดีสม่ำเสมอ สามารถคว้าโอกาสที่ดีได้ทันท่วงทีทุกครั้ง เขาจะมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะจิตเขานิ่งจนเกิดพลังสั่นสะเทือน เป็นคลื่นความถี่ออกไปเชื่อมโยงกับข้อมูลดีดีที่มีอยู่ในจักรวาล ในคลื่นความถี่นั้นจะมีญานรู้พุ่งออกไปพร้อมๆกัน

คนที่จิตนิ่ง ลางสังหรณ์จะแม่นยำ ติดสินอะไรจะถูกต้อง ถูกทาง ไม่ผิดพลาดล้มเหลว การสวดมนต์เป็นวิธีการหนึ่ง ที่ทำให้จิตรวมเป็นหนึ่ง เกิดความสงบ นิ่ง และมีพลัง

ขณะกำลังสวดมนต์ พลังสั่นสะเทือนของเสียงที่เปล่งออกมาจะกระทบกับประสาทของเรา สามารถเปลี่ยนอารมณ์ให้สงบและเกิดศรัทธา ทำให้ญานรู้ในตัวตื่นขึ้นมา ( คือการบริกรรม คือการปลุกจิตใต้สำนึกนั่นเอง )

พลังแห่งการสวดมนต์ ยังปลุกเซลล์ส่วนต่างๆของร่างกายให้ตื่นตัวมีชีวิตชีวา ยังส่งผลให้ผู้สวดมีผิวพรรณสดใส อ่อนเยาว์ เปล่งปลั่ง เราจะสังเกตุได้ไม่ยากว่า .. คนสวดมนต์บ่อยๆ หน้าจะเด็กกว่าอายุจริง ยิ่งสวดมนต์มากเท่าใด ผลลัพธ์จะยิ่งเด่นชัดมาก เพราะจิตนิ่งมีพลังมาก จิตเข้มแข็ง ร่ายกายก็สดชื่น อ่อนเยาว์ แข็งแรงไปด้วย

การสวดมนต์เปล่งเสียงดังๆ จะก่อให้เกิดญานรู้ หรือจิตเป็นสมาธิระดับญานได้อย่างไร? วิธีที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้คำตอบชัดเจนถูกต้องที่สุดคือ ” การฝึกด้วยตนเอง ” ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียเวลาเปล่า เพียงแค่..นั่งสวดมนต์แล้วจิตไม่เป็นสมาธิ ไม่ทำให้คุณขาดทุนหรอก แต่หากคุณมีศรัทธาเต็มหัวใจ คุณจะเห็นด้วยตนเองว่า หลังจากคุณสวดมนต์ด้วยน้ำเสียงกังวาน เมื่อผ่านไปพักใหญ่ ให้คุณลองนั่งสมาธิดู คุณจะพบว่าจิตเป็นสมาธิเร็วมาก ความจริงแล้ว..อะไรๆก็ไม่สำคัญเท่าจิตเป็นสมาธิ เขาเรียกว่า จิตเตรียมพร้อมที่จะทำงาน

การสวดมนต์นานๆ ทำบ่อยๆ นับเป็นการจูนจิตที่ดีมากวิธีหนึ่ง เมื่อไหร่ก็ตามที่เราจดจ่ออยู่กับถ้อยคำมนตรา พลังงานแห่งการท่องมนต์ ก็จะก่อรูปร่างอันแข็งแกร่ง แม้เรามองไม่เห็นแต่มันมีอยู่จริง จิตที่จดจ่ออยู่กับการสวดมนต์เป็นจิตที่มีสมาธิอยู่ในตัวเอง เมื่อสมาธินิ่งเป็นจุดเดียว ผลก็คือ จิตหรือความคิดย่อมมีฤทธิ์แน่นอน กล่าวคือ..จิตที่มีฤทธิ์ย่อมก่อให้เกิดสติปัญญาที่ไร้ขอบเขต จะทำการงานสิ่งใดๆ ก็คิดหนทางที่พิเศษกว่าใครๆ ได้ก่อนเสมอๆ ไม่มีอะไรมาขัดขวางคนที่มีดวงจิตเป็นสมาธิได้

อะไรที่เราคิด พูด หรือ ทำบ่อยๆ จะส่งผลต่อรูปร่าง โครงสร้างการเชื่อมต่อ และ จำนวนเส้นประสาทในสมองของเรา ยิ่งเราใช้สมองส่วนใดมาก สมองส่วนนั้นจะยิ่งเติบโตแข็งแรงมากขึ้น และยิ่งเราคิดถึงเรื่องใดบ่อยๆ เส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับความคิดนั้น จะยิ่งเชื่อมต่อกันจนแข็งแกร่งกว่าเดิม ไม่ต่างจากกล้ามเนื้อเลย ” การสวดมนต์ควรทำให้บ่อย ทำให้ต่อเนื่อง ทำซ้ำๆซากๆ ทำให้จำเจ ทำจนขึ้นใจ และ บทสวดมนต์จะศักดิ์สิทธิ์เองโดยไม่รู้ตัว จนกลายมาเป็นเวทย์มนต์อันศักดิ์สิทธิ์ในที่สุด

” เพียงแค่สวดมนต์ก็เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนโชคชะตาได้ “ สวดมนต์ทุกวัน บุญเพิ่ม กรรมลด สติมาปัญญามาก พาผ่านพ้นอุปสรรค พบความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรม และจะสมปรารถนาทุกสิ่งอันเป็นบุญ “

การสวดมนต์มีอานิสงส์มาก มีอานุภาพแห่งพลังบุญบริสุทธิ์ สวดเองก็ได้อานิสงส์บุญยิ่งใหญ่

• ผู้ให้ข้าวน้ำ ถือว่าให้กำลัง
• ผู้ให้เสื้อผ้า ถือว่าให้ความสวยงาม
• ผู้ให้ธรรมะเป็นทาน ถือว่า..ให้สติ ให้ปัญญา
• ให้ความพ้นทุกข์ ให้แสงสว่างแห่งธรรมอันเป็นบุญสูงสุด
• ผู้ใดให้ธรรมเป็นทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้นิพพานแก่คนทั้งหลาย
● สพพทานํ ธมมทานํ ชินาติ
● สพฺพรสํ ธมฺมรโส ชินาติ
• การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง
• รสแห่งธรรมย่อมชนะรสทั้งปวง
• ความยินดีในธรรม ย่อมชนะความยินดีทั้งปวง
• ความสิ้นไปแห่งตัณหา ย่อมชนะทุกข์ทั้งปวง

ธรรมทาน ชนะการให้ทานทั้งปวง

การพิมพ์หนังสือธรรมะแจก เป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ อานิสงส์สูง บารมีมาก เพราะเป็นการให้ปัญญา ให้แสงสว่าง ให้ความพ้นทุกข์ ให้ความสงบ ความสุขอันแท้จริงแก่คนทั้งหลาย ให้สุขกาย สุขใจกันถ้วนทั่ว ด้วยพลังแห่งการสวดมนต์ ภาวนา วิปัสนา สมาธิ คือบุญใหญ่ อานิสงส์สูง ง่ายงามสำหรับทุกคน

การสร้างหนังสือสวดมนต์แจกเป็นมหาทาน
จึงเป็นการส่งบุญ มอบแสงสว่าง มหาสติ มหาปัญญา ให้แก่คนทั้งหลาย
ดั่งพุทธพจน์กล่าวไว้ว่า…
“ผู้ใดให้ธรรมทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้นิพพานแก่คนทั้งหลาย”