พระพุทธศาสนาสอนให้เรารู้ว่า ในโลกใบนี้ไม่มีอะไรเป็นเรื่องบังเอิญ ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยแรงกรรม แรงบุญ และแรงบาปที่เราต่างได้เคยทำเอาไว้ สัตว์เลี้ยงที่เป็นที่รักของเราในวันนี้ อาจจะเคยเกิดเป็นเพื่อน เป็นญาติพี่น้อง หรือเป็นคนคุ้นเคยกันมาก่อน เราถึงรักและห่วงใยพวกเขา หรือเกิดมาเจอกับพวกเขา เราจึงควรดูแลเอาใจใส่พวกเขาเป็นอย่างดี อย่าคิดว่าพวกเขาเป็นสัตว์แล้วเราเป็นเจ้าของ เราจะทำอย่างไรก็ได้ เพราะแท้จริงแล้ว กายภายนอกของพวกเขาเป็นสัตว์ แต่กายภายใน หรือวิญญาณของพวกเขานั้นเป็นคน เพียงแต่พวกเขากำลังเสวยวิบากกรรม ต้องมามีรูปกายภายนอกที่เป็นสัตว์ เมื่อเราตัดสินใจที่จะเลี้ยงสัตว์ เราต้องมั่นใจว่า เลี้ยงแล้วจะไม่เป็นบาปเป็นกรรม มิฉะนั้นภพชาติหน้าเราอาจต้องเกิดมาเป็นสัตว์ให้เขาทำทารุณกรรมบ้างก็เป็นได้ ที่สำคัญคือพระพุทธศาสนาสอนเราว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทำอย่างไรได้อย่างนั้น ไม่ว่าจะทำกับคนหรือสัตว์ก็ตาม เราทำกับสัตว์อย่างไร สักวันหนึ่งกรรมนั้น ไม่ว่าดี หรือชั่ว ก็ต้องตอบสนองกลับมา ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ใครเลยจะรู้ได้ว่า หากเราดูแลน้องหมา น้องแมวเป็นอย่างดี ให้ความรัก ความอบอุ่น ความปรารถนาดี คอยฝึกสอน แผ่เมตตา และหาวิธีให้พวกเขาได้บุญติดตัวไปบ้าง สักวัน เขาอาจได้เกิดเป็นคน แล้วกลับมาดูแลเราเป็นอย่างดี ด้วยความรัก ความซื่อสัตย์ และจริงใจได้เช่นกัน
.
ธรรมะที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งสอนเอาไว้ตลอด 45 ปีแห่งการเผยแผ่พระพุทธศาสนานั้นมีมากถึง 84,000 หมวดหมู่ (พระธรรมขันธ์) ครอบคลุมเนื้อหามากมาย ตั้งแต่สิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างเรื่องของการแปรงฟันไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ อย่างกำเนิดจักรวาล ส่วนเรื่องของการดูแลสัตว์เลี้ยงนั้น เราก็สามารถที่จะหยิบยกธรรมะง่ายๆ บางหมวดหมู่มาประยุกต์ใช้ได้เช่นกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งเจ้าของสัตว์เลี้ยง และตัวสัตว์เลี้ยงเอง ซึ่งโดยเบื้องต้นในหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนจะขอกล่าวถึง (ก) พรหมวิหาร 4 (ข) สังคหวัตถุ 4 และ (ค) ปฏิรูปเทส 4
(ก) พรหมวิหาร 4 = เมตตา + กรุณา + มุทิตา + อุเบกขา
เจ้าของสัตว์เลี้ยง ควรเริ่มต้นจากการดูแลใจของตัวเอง ให้มีคุณภาพดี ใจที่มีคุณภาพดี ก็คือใจที่มีคุณธรรมนั่นเอง คุณธรรมเบื้องต้นสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงคือ พรหมวิหาร 4 เป็นการเตรียมใจให้พร้อมต่อการพบกับสัตว์เลี้ยงที่ส่วนใหญ่มักใช้สัญชาติญาณในการดำเนินชีวิต เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในภูมิที่ด้อยกว่ามนุษย์ ทั้งในแง่สติปัญญา ความรู้ ความสามารถ คุณธรรม เราต้องเตรียมใจพร้อมไว้ก่อนเลยว่า สัตว์นั้นอาจจะพูดไม่รู้เรื่องเหมือนมนุษย์ และอาจแสดงออกไปตามอารมณ์อย่างที่คาดเดาไม่ได้ บางทีอาจทำในสิ่งที่ขัดใจเรา สร้างความเสียหาย สกปรกเลอะเทอะ หรือแม้แต่ทำร้ายเราก็เป็นไปได้
เจ้าของควรตั้งจิตให้มีเมตตาอยู่เสมอ คือมีความรักและความปรารถนาดี อยากให้สัตว์เลี้ยงอยู่เป็นสุข และพร้อมที่จะอภัยให้พวกเขาเสมอ ไม่ผูกโกรธ ผูกแค้นต่อพวกเขา มีความกรุณา อยากช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงให้พ้นจากความทุกข์ทั้งหลายที่อาจเกิดขึ้น มีมุทิตา เมื่อพวกเขามีความสุข เราก็มีความยินดี พลอยสุขใจไปด้วย และมีอุเบกขาคือ เมื่อเราไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของเขาให้เป็นไปในทางที่ดีได้ ทั้งๆ ที่พยายามด้วยวิธีการต่างๆ แล้ว เราก็ต้องรู้จักปล่อยวาง ไม่โมโหโกรธเคือง เดือดเนื้อร้อนใจหรือทุกข์ใจไปด้วย หรือถ้าหากพวกเขาเจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรือตายไป เราก็ต้องรู้จักปลงเช่นกัน ว่าเป็นธรรมดาของชีวิต และไม่เสียใจเศร้าโศกใดๆ เพราะเราได้เลี้ยงดูและรักษาพวกเขาอย่างดีที่สุดแล้ว
(ข) สังคหวัตถุ 4 = ทาน + ปิยวาจา + อัตถจริยา + สมานัตตา
เมื่อเรามีพรหมวิหาร 4 ซึ่ง เป็นการทำดีต่อสัตว์เลี้ยงด้วยจิตใจแล้ว เราก็สามารถแสดงออกมาเป็นคำพูด และการกระทำที่ดีงามด้วย เราเรียกธรรมหมวดนี้ว่า “สังคหวัตถุ” หมายถึงความประพฤติที่เป็นการสงเคราะห์ต่อสัตว์เลี้ยงทั้ง 4 ประการ ได้แก่ ทาน คือการให้ การแบ่งปัน ให้อาหาร ให้ข้าว ให้น้ำ ให้ยารักษาโรค ให้สิ่งต่างๆ อันสมควรต่อการดำรงชีวิตอย่างสะดวกปลอดภัยของสัตว์เลี้ยงของเรา เพื่อให้พวกเขามีชีวิตที่ดี โดยการให้นี้ต้องไม่เบียดเบียนตนเอง และผู้อื่น คือไม่ให้เกินกำลัง ไม่สิ้นเปลืองจนเกินไป ต้องให้อย่างสมเหตุสมผล เพราะเราต้องแบ่งสรรปันส่วนเอาไว้เลี้ยงดูบิดามารดา และสมาชิกครอบครัว ซึ่งมีความสำคัญยิ่งกว่า นอกจากนี้เราต้องให้ “อภัยทาน” แก่พวกเขาด้วย โดยไม่ทำร้าย หรือฆ่าพวกเขา ไม่ว่าจะลงมือทำด้วยตนเอง หรือใช้ให้คนอื่นทำ ส่วนปิยวาจา คือการสื่อสารกับสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นทางวาจาหรือภาษากิริยาท่าทาง ต้องสื่อออกมาจากใจที่เปี่ยมไปด้วยเมตตากรุณา พูดและสอนพวกเขาอย่างปรารถนาดี ไม่พูดหยาบคาย ไม่พูดดุด่าด้วยถ้อยคำรุนแรง และไม่พูดโกหกหลอกลวงหรือกลั่นแกล้งพวกเขา เพราะไม่ว่าพวกเขาจะฟังรู้เรื่องหรือไม่ก็ตาม ตัวเรานั่นเองที่ได้รับบาปก่อนใคร เพราะคำพูดออกมาจากจิตที่เป็นอกุศล ไม่บริสุทธิ์ใจ ข้อต่อไปคือ อัตถจริยา คำช่วยเหลือเกื้อกูลสัตว์เลี้ยงผ่านการกระทำต่างๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขา เท่าที่เราจะทำได้ เช่นพาไปพบสัตวแพทย์ยามเจ็บป่วย หรือช่วยรักษาพยาบาลเท่าที่จะทำได้ หากเป็นสัตว์ใช้งาน ก็ใช้งานแต่พอดี ไม่ปล่อยให้ทำงานหนักเกินไป ตกทุกข์ได้ยากอย่างไรก็ไม่นิ่งดูดาย ให้คอยช่วยเหลือ ข้อสุดท้ายคือ สมานัตตา คือประพฤติต่อพวกเขาอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ตลอดช่วงระยะเวลาที่พวกเขาอยู่ในการดูแลของเรา ไม่ใช่ว่าตอนเล็กๆ ดูน่ารัก ก็ดูแลเป็นอย่างดี พอแก่ตัว ดูไม่น่ารักหรือใช้งานไม่ได้ ก็เลี้ยงอย่างทิ้งๆ ขว้างๆ เป็นต้น
(ค) ปฏิรูปเทส 4 = คนเป็นที่สบาย + อาหารเป็นที่สบาย + สถานที่เป็นที่สบาย + ธรรมะเป็นที่สบาย
ธรรมะอีกหมวดที่สำคัญสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยง คือปฏิรูปเทส หมายถึงการบริหารจัดการดูแลสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม ซึ่งปกติแล้วธรรมะหมวดนี้ใช้สำหรับผู้ที่ปฏิบัติธรรม แต่เราก็อนุโลมนำมาประยุกต์ใช้กับสัตว์เลี้ยงได้เช่นกัน เริ่มจากคนเป็นที่สบาย คือให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในความดูแลของคนที่ไม่เป็นโทษเป็นภัยไม่ทำร้ายพวกเขา อย่างน้อยๆ ก็ควรเป็นคนที่รักสัตว์บ้าง และมีความพร้อมในด้านต่างๆ ที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงได้เป็นอย่างดี ถ้าหากเราจะยกสัตว์เลี้ยงหรือลูกของสัตว์เลี้ยงให้กับคนอื่น ก็ต้องพิจารณาข้อนี้ก่อนเป็นอันดับแรก ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ข้อต่อไปคือ อาหารเป็นที่สบาย คือมีความเหมาะสม เหมาะต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง ไม่จำเป็นต้องอร่อย หรือถูกใจพวกเขาเสมอไป คือเราก็ไม่ต้องตามใจปากของพวกเขา แต่ต้องดีต่อสุขภาพ ไม่ก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ และไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากเกินไป ปริมาณอาหารไม่มากไม่น้อยเกินไป และควรให้ทานอาหารเป็นเวลา สถานที่เป็นที่สบาย หมายถึง สัตว์เลี้ยงควรมีที่อยู่ ที่กิน ที่ขับถ่าย อันเหมาะสม สะอาด ถูกสุขลักษณะ และมีความปลอดภัย ต่อทั้งตัวสัตว์เลี้ยงเอง และผู้อื่น เลี้ยงเอาไว้ในที่อันสมควร ถ้าจำเป็นต้องกักขังสัตว์นั้น ก็ต้องพิจารณาถึงบาปบุญคุณโทษด้วย เพราะเจ้าของอาจได้รับกรรมต้องถูกกักบริเวณเอาบ้าง ควรมีสถานที่กว้างขวางพอให้พวกเขาใช้ชีวิตอย่างมีอิสระพอสมควรตามประสาสัตว์ ที่ต้องวิ่ง ต้องกระโดด ส่วนธรรมะเป็นที่สบาย ในที่นี้อาจหมายถึง การที่สัตว์เลี้ยงจะได้รับการฝึกสอนในเรื่องต่างๆ บ้าง เช่นการขับถ่าย การรู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่ทะเลาะกัน ไม่แย่งอาหารกัน สอนให้พวกเขาได้รู้ว่า เมื่อทำดี ทำถูกต้อง ก็จะได้รับรางวัล ได้รับการชื่นชม เมื่อทำผิด ทำไม่ถูกต้อง ก็จะถูกทำโทษ โดยเจ้าของสัตว์เลี้ยง อาจจะศึกษาวิธีฝึกสอนสัตว์เลี้ยงจากสัตวแพทย์ หรือศึกษาจากเว็บไซท์ต่างๆ ที่ยิ่งไปกว่านี้ ธรรมะเป็นที่สบาย ยังหมายถึงการที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถนำธรรมะมาหล่อเลี้ยงใจของสัตว์เลี้ยงในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถทำความดี มีจิตเป็นบุญกุศล ตามแต่อัตภาพจะเอื้อเฟื้อ ดังเทคนิควิธีการที่ได้กล่าวมาแล้วในบทต้นๆ
ส่งบุญแผ่เมตตาถึงสัตว์เลี้ยง
จากที่ได้กล่าวมาแล้วว่า เจ้าของสัตว์เลี้ยง สามารถแสดงออกทางกาย วาจา และใจ ได้อย่างไร เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรัก ความเมตตา ปรารถนาดี ที่มีต่อพวกเขา ส่วนเทคนิควิธีการพิเศษสุด ที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคนสามารถทำได้ก็คือ “การทำสมาธิ” เพื่อแผ่เมตตา (ในกรณีที่สัตว์นั้นยังมีชีวิตอยู่) หรือแผ่ส่วนบุญ(ในกรณีที่เสียชีวิตแล้ว) เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีความสุข วิธีการนี้ เป็นการสื่อจาก “ใจ” ของเรา สู่ “ใจ” ของพวกเขาโดยตรง ราวกับระบบบลูทูธ (Bluetooth)
เริ่มจากทำใจให้เป็นสมาธิ มีจิตตั้งมั่น ตั้งใจให้เปี่ยมไปด้วยความรัก ความเมตตา ปรารถนาดี นึกถึงบุญกุศลคุณงามความดีที่เราทำมาจนกระทั่งใจเบิกบานสดใสเป็นสุข แล้วจึงนึกเผื่อแผ่ให้กับสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย ปรารถนาให้พวกเขาสุขกาย สบายใจ ไม่มีทุกข์ โศก โรค ภัย เปรียบเสมือนเราเป็นสถานี ที่ส่งคลื่นกระแสแห่งความรักความเมตตาปรารถนาดี ไปสู่ดวงใจของสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย ใจของพวกเขาก็จะซึมซับได้โดยอัตโนมัติ สามารถช่วยปรับปรุงพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงที่ดุร้าย เกรี้ยวกราด เจ้าอารมณ์ ให้มีจิตใจที่สดใส และอารมณ์ดีมากกว่าเดิม
ก่อนอื่นคุณเจ้าของควรอยู่ในท่านั่งท่าใดก็ได้ที่สบาย จะนั่งบนเก้าอี้ บนเตียง บนโซฟา หรือบนพื้น นั่งขัดสมาธิหรือนั่งห้อยเท้าก็ได้ หายใจเข้าออกลึกๆ สัก 3 – 7 ครั้ง ผ่อนคลายทั้งร่างกาย แล้วค่อยๆ หลับตาเบาๆ ทำใจราวกับว่าเรากำลังจะนอนหลับ ปล่อยวางทุกสิ่ง ทุกเรื่องราว นึกถึงพระจันทร์เต็มดวง นวลสว่างลอยอยู่ในกลางท้องเพื่อแทนดวงใจอันงดงามของเราเอง นึกเท่าที่นึกได้ จะชัดหรือไม่ชัดก็ไม่เป็นไร ถ้านึกแล้วรู้สึกตึงหรือเครียด หรือนึกไม่ออก ก็ไม่ต้องนึกก็ได้ เพราะการนึกมโนภาพขึ้นมานี้ก็เพียงเพื่อให้ใจมีที่ยึดเกาะจรดจ่ออย่างสงบ และป้องกันความฟุ้งซ่านที่มาในรูปแบบของภาพความคิด คล้ายกับตอนที่ครูให้เราเลี้ยงผลึกสารส้ม เราก็ต้องหย่อนเส้นด้ายที่ผูกชิ้นสารส้มเล็กๆ เอาไว้ที่ปลาย ลงไปในน้ำเพื่อให้ผลึกมายึดเกาะและพัฒนาเป็นก้อนผลึกที่สวยงาม ไม่อย่างนั้นผลึกก็จะเกาะตัวกระจัดกระจายไปทั่ว จากนั้นจึงท่องคำภาวนาในใจ จะท่องคำว่า “สัมมา อะระหัง” “พุทโธ” “นะมะพะทะ” หรือคำอื่นๆ ที่เป็นคำดีงาม อย่าง “สงบสบาย” หรือ “สว่างหนอๆๆ” ก็ได้ ท่องไปสักหนึ่งร้อยครั้ง หรือมากกว่านี้ เพื่อให้ใจสงบเป็นสมาธิ พ้นจากความฟุ้งซ่านในรูปของเสียงความคิด
เมื่อใจนิ่งสงบดีแล้ว ถ้าเรานึกภาพดวงจันทร์กระจ่างสว่างเย็นได้ ก็ให้จินตนาการว่า ดวงจันทร์นั้นแทนดวงใจของเราที่เปี่ยมไปด้วยความรัก ความเมตตา ปรารถนาดี แล้วค่อยๆ แผ่ความสว่าง คือแสงแห่งความเมตตาปรารถนาดีนั้นครอบคลุมตัวสัตว์เลี้ยงทั้งหลายที่อาจจะนอนหมอบอยู่ใกล้ๆ หรือแม้จะอยู่ต่างห้องต่างที่ก็ตาม หรือจะนึกภาพสัตว์เลี้ยงของเราเอาไว้ในกลางดวงสว่างที่ลอยอยู่กลางท้องเรานั้นก็ได้ตามแต่ถนัด แต่ถ้าเรานึกภาพดวงจันทร์ไม่ออก ก็เพียงแค่ทำความรู้สึกขึ้นมา คือต้อง build อารมณ์แห่งความสุข ความรัก ความเมตตาขึ้นมา ให้ใจของเราเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักความเมตตาปรารถนาดี แล้วแผ่ขยายความรู้สึกนั้นออกไป เหมือนพระจันทร์ที่แผ่รัศมีความสว่างนวลๆ ไปทั่วท้องฟ้า แล้วนึกในใจขอให้พวกเขามีความสุขกายสบายใจ ปราศจากโรคภัยทั้งหลาย ขอบคุณพวกเขาที่รักและซื่อสัตย์กับเรา พร้อมทั้งอโหสิกรรมให้กับเขาถ้าหากได้เคยล่วงเกินกัน สำหรับสัตว์ที่เสียชีวิตไปแล้ว เราก็นึกอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ ทำเช่นนี้สักพัก ไม่เกิน 5 – 10 นาที ทำเป็นประจำทุกวัน ในตอนเช้าหลังจากตื่น และก่อนเข้านอน แล้วคุณจะพบว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีความสุขมากขึ้น และที่สำคัญคือ ตัวคุณเองก็มีความสุขมากยิ่งขึ้นด้วย
มนุษย์เรานิยมเลี้ยงสัตว์กันมานานแสนนาน ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงไว้ใช้งาน เลี้ยงไว้เป็นอาหาร เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน หรือเลี้ยงไว้เพื่อทำประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง สัตว์ที่เราเลี้ยงก็มีตั้งแต่ งู หนู กะรอก หมา แมว นก ลิง ปลา ช้าง ม้า วัว ควาย กระต่าย เต่า แมลง ฯลฯ บางคนก็เลี้ยงสัตว์ดุร้ายอย่าง จระเข้ ปลาปิรันย่า แมลงป่อง และเสือ แต่ที่นิยมกันมากในปัจจุบันก็คือน้องหมาและน้องแมว คนส่วนใหญ่ไม่คิดเลยว่า สัตว์เหล่านี้จะมีสติปัญญาและความพร้อมในการสั่งสมบุญ หรือพัฒนาจิตใจตามหลักของพระพุทธศาสนาได้ เพราะสัตว์มักแสดงออกตามสัญชาติญาณมากกว่าเหตุผล
.
อย่างไรก็ดี คำสอนในพระพุทธศาสนานั้น แม้จะระบุชัดเจนว่า สัตว์เดรัจฉานไม่สามารถบรรลุธรรมได้ แต่ก็มีเรื่องราวตัวอย่างมากมายให้เห็นว่า สัตว์ยังสามารถสั่งสมบุญ ซึมซับธรรมะ และสิ่งดีงามต่างๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ และยังเคยมีสัตว์เดรัจฉานที่มีบุญมาก หรือถึงขั้นมีคุณธรรมสูงกว่ามนุษย์เสียอีก อย่างในเรื่องราวชาดกมากมาย สมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยเกิดเป็นสัตว์ อย่างเช่นนก ช้าง สิงโต และกระต่าย พระองค์ก็ยังคงอาศัยรูปกายของสัตว์ในการสั่งสมบุญ ทำความดี ได้เหมือนกัน
.
ขอแบ่งปันเรื่องราวดีๆ จากพระไตรปิฎกที่เกี่ยวเนื่องกับสัตว์ ซึ่งสามารถพัฒนาชีวิตและจิตใจ ด้วยธรรมะและการทำความดี เป็นผลให้พวกเขาได้เกิดใหม่เป็นมนุษย์หรือเทวดาในภพชาติต่อๆ ไป อีกทั้งยังเป็นแนวทางให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย ได้รู้จักมอบ “ธรรมะ” และพาพวกเขาสั่งสมบุญ ด้วยเทคนิควิธีการต่างๆ ซึ่งจะเป็นของขวัญที่ดีที่สุด เพื่อให้พวกเขามีความสุขที่แท้จริงทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ถือเป็นการตอบแทนความรักและความซื่อสัตย์ ที่พวกเขามอบให้กับเรา ซึ่งบางครั้งก็ไม่อาจพบได้ง่ายนักในหมู่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
CR : Pittaya Wong
ธรรมทาน แผ่นพับบทสวดมนต์สีสวย
การให้ธรรมะชนะการให้ทั้งปวง การพิมพ์หนังสือธรรมะแจก
ถือเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ บารมีมาก อานิสงส์สูงยิ่ง เพราะเป็นการให้ปัญญา
ให้แสงสว่าง ให้ความพ้นทุกข์ ให้ความสงบ ความสุขอันแท้จริงแก่คนและสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ได้สุขกายใจกันถ้วนทั่ว ด้วยพลังบุญแห่งภาวนา สมาธิ อโหสิกรรม
และการแผ่เมตตาอันสุดประมาณ เทพเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างสรรเสริญยินดี
ร่วมอนุโมทนาในบุญแห่งการสวดมนต์ ภาวนา สมาธินั้น
เปรียบดั่งเราปลูกต้นบุญ อำนาจแห่งบุญก็เติบโตแผ่ขยาย แตกหน่องอกงาม
ออกดอก ออกผล แพร่ขยายร่มใบแห่งต้นบุญออกไปตลอดกาล
การสร้างหนังสือสวดมนต์แจกเป็นทาน
จึงชื่อว่าเป็นการปลูกต้นบุญชีวิต ต้นบุญแห่งธรรม
ดั่งพุทธพจน์กล่าวว่า..ผู้ใดให้ธรรมเป็นทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้นิพพานแก่คนทั้งหลาย
ธรรมทาน
“แผ่นพับบทสวดมนต์สีสวย”
หนังสือสร้างบุญ สร้างสุข สร้างปัญญาญาณ
ให้นิพพานแก่คนทั้งหลาย
บุญประณีต อิ่มใจผู้ให้ สุขใจผู้ให้
● สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ
● สพฺพํ รสํ ธมฺมรโส ชินาติ
● สพฺพํ รตึ ธมฺมรตี ชินาติ
● ตณฺหกฺขโย สพฺพทุกฺขํ ชินาติ.
● ธรรมทานย่อมชนะทานทั้งปวง
● รสแห่งธรรมย่อมชนะรสทั้งปวง
● ความยินดีในธรรมย่อมชนะความยินดีทั้งปวง
● ความสิ้นไปแห่งตัณหาย่อมชนะทุกข์ทั้งปวง.
บทสวดมนต์ พระคาถาศักดิ์สิทธิ์ ๑๙ บท
พร้อมด้วยคาถาบูชาดวงชะตา บทขออโหสิกรรม บทแผ่เมตตาอุทิศบุญครบสูตร
กรอบเดินลายทองเทวบุตร เทวดา พญานาคราช พระพุทธเจ้ารักษา เป็นมหามงคล
รูปเล่มขนาดกระทัดรัด พกพาสะดวก ยกลายเดินทองบนพื้นสีสวย กระดาษอาร์ตเคลือบด้านกันน้ำ
กันแสงสะท้อน ถนอมสายตา พลิกหน้าสวดมนต์เรียงตามเลขหน้าสะดวกมาก
ลำดับบทสวดมนต์ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์สำหรับการสวดมนต์ประจำวัน
๑๐ สีสวยเดินลายทองเทวบุตร เทวดา
๑. สีแดง เดินลายทอง ( วันอาทิตย์ )
๒. สีดำ เดินลายทอง ( วันจันทร์ )
๓. สีชมพู เดินลายทอง ( วันอังคาร )
๔. สีเขียวมรกต เดินลายทอง ( วันพุธ )
๕. สีส้ม เดินลายทอง ( วันพฤหัสบดี )
๖. สีฟ้า เดินลายทอง ( วันศุกร์ )
๗. สีม่วง เดินลายทอง ( วันเสาร์ )
๘. สีน้ำตาล เดินลายทอง
๙. สีน้ำเงิน เดินลายทอง
๑๐. สีเงิน เดินลายทอง
๑๙ บทสวดมนต์ พระคาถาศักดิ์สิทธิ์
๑. บทบูชาพระรัตนตรัย
๒. บทกราบพระรัตนตรัย
๓. บทนอบน้อมพระพุทธเจ้า
๔. บทขอขมาพระรัตนตรัย
๕. บทไตรสรณคมน์
๖. คำสมาทานศีล5
๗. บทถวายพรพระรัตนตรัย (อิติปิโสฯ)
๘. พุทธชัยมงคลคาถา
๙. มหาการุณิโก
๑๐. สรรพมงคลคาถา
๑๑. คาถาชินบัญชร
๑๒. อิติปิโสฯ
๑๓. คาถาบูชาดวงชะตา
๑๔. บทแผ่เมตตาแก่ตนเอง
๑๕. บทแผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์
๑๖. บทแผ่บุญกุศล
๑๗. คาถาล้างกรรม (หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค)
๑๘. บทขออโหสิกรรม-ถอนสาบาน
๑๙. บทกรวดน้ำแผ่เมตตา ( หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)
ออกแบบแผ่นพับให้พลิกเปิดสวดมนต์ตามลำดับเลขหน้าได้สะดวก เรียงลำดับบทสวดมนต์ถูกต้อง
ราคาแผ่นพับบทสวดมนต์สีสวย
ราคาเล่มละ ๑๓ บาท
๑ กองบุญ มี ๑๐๐ เล่ม
กองบุญละ ๑,๓๐๐ บาท
บวกค่าจัดส่งตามน้ำหนัก
ธรรมทานบทสวดมนต์สีสวยบุญใหญ่ อานิสงสฺ์สูง
แจกแผ่นพับบทสวดมนต์สีสวย
สร้างบุญด้วยการให้ปัญญา ให้ความสงบ ความสุข ความสว่าง
แก่คนทั้งหลายให้ได้สุขใจทั่วหน้า สวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดีๆแต่ต้นปี
เพื่อชีวิตดีตลอดปีและตลอดไป ดังพุทธพจน์กล่าวว่า..
ผู้ใดให้ธรรมเป็นทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้นิพพานแก่คนทั้งหลาย
ให้ความเป็นคน ให้สติปัญญา
ให้ความพ้นทุกข์ ให้ทางสว่างแห่งธรรม
บทสวดมนต์สีสวย 5 กองบุญ รับกล่องญาณเสียงธรรมศักดิ์สิทธิ์
ร่วมบุญ 5 กองบุญ (500 เล่ม)
รับมอบกล่องญานลำโพงเสียงธรรมศักดิ์สิทธิ์ 1 เครื่อง »» ลำโพง Blue Tooth
คุณภาพสูง ขนาดเล็กๆน่ารักมาก ขนาด 4.5 x 9 x 6 CM.
มี 6 สีสวย ใช้งานง่าย พกพาสะดวกเปิดฟังได้ทุกที่ บรรจุเสียงสวดมนต์
และ บทบรรยายธรรม เต็ม 16 GB
กล่องญานเสียงธรรมศักดิ์สิทธิ์นี้เปิดที่ไหนที่นั้นศักดิ์สิทธิ์ ปลุกเสกธาตุทั้งห้าในกาย บ้านเรือนร้านค้า ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ ให้ศักดิ์สิทธิ์ด้วยพลังพุทธมนต์ เทพเทวา สรรพสิ่ง สรรพสัตว์ทั้งหลาย จิตญานทั้งหลาย ล้วนยินดีในธรรม บังเกิดภูมิธรรม ปัญญาญาน ความรู้ ความสงบสุขจากมนตราอันศักดิ์สิทธิ์และเสียงธรรมอันทรงคุณค่าหาฟังได้ยากนับพันบท เหมาะสำหรับทุกท่าน ทุกคน ทุกเพศทุกวัย ทุกสถานที่
✅ กล่องญาณสำหรับแจกฟรีเป็นธรรมทานเท่านั้น‼ ไม่มีจำหน่าย ❌
✅ ดูสารบัญธรรมได้ที่ไลน์นี้ LINE:@nammon
✅ หรือกดที่นี่► https://line.me/R/ti/p/%40nammon
✅ ธรรมทานแผ่นพับบทสวดมนต์สีสวย
❌❌ กล่องญานลำโพงเสียงธรรมศักดิ์สิทธิ์ ❌❌
คลื่นมนตราเสียงสวดมนต์เป็นคลื่นเสียงแห่งบุญ แห่งความดี คือแสงสว่าง คือคลื่นแห่งการเยียวยา คลื่นเสียงมนตราทำให้เกิดคลื่นเสียงที่มีความสม่ำเสมอ เข้าไปกระตุ้นร่างกายให้เกิดการเยียวยา เมื่อหูของเราได้ยินเสียง บทสวด ก็จะส่งสัญญาณต่อไปยังศูนย์การได้ยินที่อยู่บริเวณสมองกลีบขมับ ก่อนส่งไปบริเวณก้านสมอง ซึ่งเมื่อได้รับคลื่นเสียงช้าๆ สม่ำเสมอประมาณ 15 นาที ก็จะหลั่งสารสื่อประสาทที่มีประโยชน์มากมาย
“สมองของ เราเมื่อได้รับการกระตุ้นด้วยคลื่นเสียงช้า ๆ สม่ำเสมอประมาณ 15 นาทีขึ้นไป จะทำให้เซลล์ประสาทของระบบประสาทสมองสังเคราะห์สารสื่อประสาทหลายๆชนิด บริเวณก้านสมองจะหลั่งสารสื่อประสาทชื่อ ซีโรโทนิน (serotonin) เพิ่มขึ้นซึ่งมีฤทธิ์คล้ายยานอนหลับ ช่วยการเรียนรู้ ลดความเครียด ลดอาการซึมเศร้า ลดระดับน้ำตาลในเลือด และเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารสื่อประสาทอื่นๆ เช่น เมลาโทนิน ซึ่งเปรียบคล้ายกับยาอายุวัฒนะ เพราะจะช่วยยึดอายุการทำงานของเซลล์ประสาท เซลล์ร่างกาย ให้ชีวิตยืนยาวขึ้น และยังมีคุณสมบัติช่วยให้นอนหลับ เพิ่มภูมิต้านทาน ทำให้เซลล์สดชื่นขึ้น
รวมถึง โดปามีน มีฤทธิ์ลดความก้าวร้าวและอาการพาร์กินสัน นอกจากนี้ปริมาณของซีโรโทนินมีความสัมพันธ์ต่อการกระตุ้นการหลั่งสารสื่อ ประสาทอื่น ๆ เช่น อะเซทิลโคลีน ช่วยในกระบวนการเรียนรู้และความจำ ช่วยขยายเส้นเลือด ทำให้ความดันลดลง และยังช่วยลดปริมาณ อาร์กินิน วาโซเปรสซิน ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมความก้าวร้าว ความสมดุลของน้ำ และซีโรโทนินยังเข้าไปลดปริมาณของสารเคมีชนิดหนึ่งที่เป็นตัวกระตุ้นของการ ทำงานของต่อมหมวกไตให้ลดลง ส่งผลให้ระบบประสาทส่วนกลางทำงานน้อยลง ร่างกายจึงรู้สึกผ่อนคลาย ปลอดโปร่ง และไม่เครียด ภูมิต้านทานเพิ่มขึ้น”
วัตถุมงคลล้ำค่าที่ระลึก
ช่องทางการแจกธรรมทาน
- ถวายธรรมทานนี้แด่พระพุทธองค์ประธาน ในวิหาร โดยขอโหสิกรรม แผ่เมตตา อุทิศบุญตั้งแต่หน้า ๑๒ ถึง หน้า ๑๕
แล้วนำไปวางถวายไว้ในจุดที่วัดจัดไว้ให้วางธรรมทาน หรือ วางถวายไว้บนตู้บริจาค { การถวายธรรมทานแบบนี้ ถือว่าถูกสถานที่
ถูกบุคคลอย่างยิ่ง }แล้วอย่าลืมแผ่เมตตา อุทิศบุญ กรวดน้ำให้กับทุกสรรพสิ่ง ทุกสรรพสัตว์ เนื้อความหน้า ๑๔ ถึง ๑๖
บอกไว้ครอบคลุมละเอียดค่ะ สำคัญคือ..ใจต้องคิดเมตตาส่งไปด้วยนะคะ
- จัดเป็นชุดสังฆทาน ถวายแด่พระภิกษุ
- แจกเป็นของชำร่วยแห่งบุญ ในงานมงคล และงานอวมงคล มีอานิสงส์สูงยิ่ง เลือกสีอ่อนหวานเย็นตาสำหรับงานมงคล
สีขรึมสุภาพสำหรับงานอวมงคล - นำไปถวายโรงพยาบาลสงฆ์ พุทศาสนิกชนที่มาทำบุญชอบหยิบกลับไปสวดมนต์มากๆ
- บ้านคนชรา เด็กกำพร้า คนพิการ คนด้อยโอกาส และเรือนจำ ที่เหล่านี้หลายท่านลืมนึกถึง แจกเขาแล้ว
วางไว้แจกคนที่มาแวะมาเยี่ยมมาทำบุญด้วยก็จะดีมากค่ะ